ทาวน์โฮม พฤกษาวิลล์ 89 วงแหวน-คู้บอน ทาวน์เฮ้าส์ สไตล์โมเดิร์น แบบบ้านใหม่ ทำเลดี ใกล้ทางด่วน เริ่ม 1.99 ลบ. 

พฤกษาวิลล์ สไตล์ชีวิต…คิดรอบด้าน เตรียมพบโครงการใหม่ พฤกษาวิลล์ 89 วงแหวน-คู้บอน ทาวน์เฮ้าส์ สไตล์โมเดิร์น แบบบ้านใหม่ ทำเลดี ใกล้ทางด่วน เริ่ม 1.99 ลบ. *

ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นที่มาพร้อมกับการออกแบบสถาปัตยกรรมอย่างลงตัวและกลมกลืน  มีรูปแบบพื้นฐานเป็นงานออกแบบที่เรียบง่าย ไม่มี ลวดลายซับซ้อน เน้นเส้นสายตกแต่งให้สวยงามขึ้น ด้วยระแนง รวมถึงเส้นบัวประดับอาคาร ต่างๆ อย่างลงตัว เพิ่มความโปร่ง โล่ง ด้วยประตูบานใหญ่ และหน้าต่าง  Enlarge-High window  เปิดรับแสงธรรมชาติ และเพิ่มความสวยงาม  เพิ่มความสูงของชั้นบน เพื่อความโปร่ง  คัดสรรวัสดุชั้นดี เทียบเท่าบ้านเดี่ยว  จัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว และปรับเปลี่ยนได้ ให้คุณได้ค้นพบรูปแบบการใช้ชิวิตใหม่  ๆ  และอารมณ์ใหม่ๆ ของการใช้ชีวิต…ที่นี่

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ

คลิกที่รูปเพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง

• จากถนนรามอินทราเข้าถนนคู้บอน ผ่านหน้าวัดคู้บอน เข้าโครงการทางถนนกาญจนาภิเษก 6/1

• จากเลียบคลองสอง ผ่านหน้าวัดคู้บอน เข้าโครงการทางถนนกาญจนาภิเษก 6/1

• จากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ลงด่านจตุโชติ มาทางถนนเลียบวงแหวน เข้าโครงการทางถนนกาญจนาภิเษก 6/1

:: HOUSE TYPE ::

แบบบ้าน Glory กลอรี่ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร

เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 18.7 ตร.วา. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 95 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้าน

แปลนบ้านชั้น 1, แปลนบ้านชั้น 2

แบบบ้าน Shine ไชน์ : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร

เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 19.8 ตร.วา. ขึ้นไป  พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 110 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้าน

แปลนบ้านชั้น 1, แปลนบ้านชั้น 2

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1739

Website : http://pruksaville.pruksa.com/

EP.331 รีวิว โกลเด้น อเวนิว แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ Golden Avenue ใกล้รถไฟฟ้า+คลับเฮ้าส์ เริ่ม 2.29-5.59 ล้านบาท

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ โครงการที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 2 ชั้น บนโซนถนนติวานนท์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนสายบางประอิน – ปากเกร็ดทำให้เข้าออกเมืองได้สะดวก ใกล้โครงการมี 7-11 ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย

ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมถูกออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงเกือบ 3 เมตร ทำให้บ้านโปร่ง โล่ง สบาย อากาศถ่ายเทสะดวก พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส พื้นที่สวนพักผ่อน และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โดยทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว และ Walk in Closet ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ซ.สุขาประชาสวรรค์ 3 ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

พิกัด google map: 13.933205, 100.519873

โครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ ตั้งอยู่ในซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ห่างจากถนนใหญ่ติวานนท์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยในแผนที่ของโครงการจะมีเส้นสีชมพูและสีม่วงแทนแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีม่วงนั่นเองค่ะ

สำหรับคนที่จะรอรถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นแจ้งวัฒนะนี่ก็ต้องรอประมาณ 5 ปีขึ้นไปค่ะ ถึงน่าจะมีโอกาสได้ใช้กัน สถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีปากเกร็ด ซึ่งห่างจากตัวโครงการไปประมาณ 5 กิโลเมตร คือไม่ได้ใกล้ในระยะเดินถึงแต่ถ้าต่อมอเตอร์ไซค์หรือแท้กซี่ไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ประมาณ 40 บาท ช่วยย่นเวลาในการเข้าสู่ตัวเมืองและเพิ่มทางเลือกสำหรับคนไม่ใช้รถได้ดีนะคะ ส่วนตอนนี้สายสีม่วงก็สร้างเสร็จแล้วและมีแผนเปิดให้บริการกันเดือนพฤษภาคม 2559 นี้

โครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ ตั้งอยู่ในซอยสุขาประชาสรรค์ 3 จุดสังเกตทางเข้าซอยคือจะตั้งอยู่ก่อนถึงโรงเรียนอัมพรไพศาลค่ะในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินถือว่าอุดมสมบูรณ์เลยนะคะ อันนี้เดี๋ยวเรามีรูปให้ดูรอบๆโครงการอีกที แต่คือใกล้ๆจะมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง และร้านอาหาร แผงขายอาหาร ผลไม้ และ 7/11 มีลานกีฬา มีอาคารพาณิชย์และสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่เยอะ เพราะเป็นย่านที่พักอาศัย นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเอื้ออาทรอยู่ ทำให้มีร้านอาหารขายเยอะ และมีราคาไม่แพง

ที่ห้าแยกปากเกร็ด ห่างจากโครงการไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีห้างทั้ง Homepro, Big C และ Major Hollywood ซึ่งอยู่ในรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตรจากโครงการ อย่างหน้า Major Hollywood นี่เย็นๆจะมีตลาดนัดด้วย นอกจากร้านอาหารภายใน Major เอง ภายนอก Major ก็มีร้านอาหารและอาคารพาณิชย์เปิดร้านพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกเพียบ และห้างใหญ่ของย่านนี้อย่าง Central แจ้งวัฒนะ ก็อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 6 กิโลเมตร

นอกจากนี้วิ่งจากถนนแจ้งวัฒนะ ไปถนนบอนด์สตรีท ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร จะเป็นโซนหน้าม.สุโขทัยซึ่งเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์มากค่ะ หาของกินง่าย ไม่ว่าจะร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารก็หาง่ายทั้งกลางวันกลางคืน มีร้านไก่ทอง มี Community Mall ชื่อ BeeHive อยู่ มี Tops อยู่ข้างในและร้านอาหารอีกหลายร้าน

โครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ อยู่ห่างจากถนนใหญ่ติวานนท์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยโครงการจะอยู่บนติวานนท์ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกสวนสมเด็จ ทางประชาชื่น

ถ้าจะเข้าเมือง ต้องกลับรถมาห้าแยกปากเกร็ดวิ่งออกมาเส้นแจ้งวัฒนะแล้วไปออกวิภาวดีเพื่อเข้าสู่ในเมือง หรือจะขึ้นทางด่วนศรีรัชก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถวิ่งมาเรื่อยๆบนเส้นติวานนท์ผ่านงามวงศ์วาน ม.เกษตรและทะลุออกเส้นพหลโยธินได้อีกด้วย ส่วนออกนอกเมืองก็จะไปโซนปทุมธานี และนนทบุรีค่ะ

สำหรับคนที่ใช้ทางด่วน โครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ อยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช(สายบางปะอิน – ปากเกร็ด)ประมาณ 6.2 กิโลเมตร จากทางด่วนขับมาประมาณ 13 นาทีก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ก็ถือว่าสะดวกพอสมควรเลย

เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนแจ้งวัฒนะ → ตรงผ่านแยกแจ้งวัฒนะ – ประชาชื่น → ตรงไปห้าแยกปากเกร็ด → เลี้ยวขวาเข้าถนนติวานนท์ → เลี้ยวซ้ายเข้าซอยซอยสุขาประชาสรรค์ 3 → ตรงเข้าไปประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็จะเจอพื้นที่โครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ อยู่ทางขวามือ

เริ่มเดินทางกันจากถนนแจ้งวัฒนะ ตรงตามป้ายปากเกร็ดไปเรื่อยๆนะคะ ขวามือจะเห็น Big C แจ้งวัฒนะอยู่

ตรงมาอีกหน่อยก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกแจ้งวัฒนะ – ประชาชื่น ขวามือเราจะเห็นคอมมิวนิตี้มอลล์ชื่อ The Avenue ที่ด้านในมีร้านอาหารหลายร้านและมีโรงหนังเมเจอร์ ซินิเพล็กซ์ อยู่ด้วย

ขึ้นสะพานข้ามแยกแจ้งวัฒนะ – ประชาชื่น ขวามือจะเป็นเทสโก้ โลตัส

ลงมาจะเจอแมคโครอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอป้ายสีน้ำเงินบอกทางขึ้นทางด่วนศรีรัช ซึ่งจากจุดนี้จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5.2 กิโลเมตรค่ะ เราตรงไปเรื่อยๆ

ตามป้ายปากเกร็ดมาเรื่อยๆค่ะ ตรงมาอีกหน่อยจะเห็น Central แจ้งวัฒนะ ห้างใหญ่ของคนย่านนี้อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

ตรงมาเรื่อยๆพอใกล้แยกปากเกร็ดก็จะเห็น HomePro และ Big C อยู่ทางซ้ายมือ

ขับมาหน่อยพอเราเห็นสะพานข้ามห้าแยกปากเกร็ด เราไม่ขึ้นสะพาน แต่ชิดซ้ายไปติวานนท์นะคะ

แล้วเลี้ยวขวาลอดใต้สะพานข้ามแยกไปติวานนท์ – ปทุมธานี ค่ะ

เลี้ยวขวาไปถนนติวานนท์ – ปทุมธานี

จากห้าแยกปากเกร็ด เราตรงต่อไปบนถนนติวานนท์ – ปทุมธานี

ตรงไปเรื่อยๆจะเห็นโรงพยาบาลกรุงไทยอยู่ทางซ้ายมือ

ตรงไปหน่อยพอเห็นป้ายปทุมธานี 19 และป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปวัดกู้ เราก็เตรียมซ้ายเข้าซอยสุขาประชาสรรค์ได้เลยค่ะ โดยซอยสุชาประชาสรรค์ 3 จะอยู่ก่อนถึงโรงเรียนอัมพรไพศาลซึ่งอยู่ทางหัวมุมของปากซอยเลยค่ะ

ที่ปากซอยสุขาประชาสรรค์ 3 จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่นะคะ นั่งไปโครงการคิด 15 บาท

ซอยสุขาประชาสรรค์ 3 เป็นซอย 2 เลน รถสวนเข้าออกแบบนี้

ในซอยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่พักอาศัยนะคะ จุดสังเกตเมื่อใกล้ถึงโครงการคือหมู่บ้านสีวลีทางฝั่งขวามือ และ 7-11 หน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรทางฝั่งซ้ายมือค่ะ

ถัดมาหน่อยจะเจอป้ายโครงการ โกลเด้น อเวนิว แจ้งวัฒนะ ก็ให้เราเตรียมเลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย

เลี้ยวขวาเข้าโครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์

รอบๆโครงการ

จากถนนใหญ่ติวานน์ เข้ามาในซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะเจอซุ้มโครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ อยู่ทางฝั่งขวามือ

รอบๆโครงการติดที่ดินโครงการเลยส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้นแทบทั้งหมดค่ะ นอกจากโซนกลางทิศเหนือและทิศตะวันออกที่อยู่ติดกับที่ดินเปล่า

ฝั่งตรงข้ามโครงการจะมี Start Sport Arena ที่เป็นสนามกีฬาด้านในอยู่ และห่างจากโครงการมาแค่ 150 เมตร แถวหน้าโครงการหมู่บ้านเอื้ออาทรก็จะเป็นโซนอุดมสมบูรณ์ใกล้โครงการที่มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์, 7 -11, ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายร้านมากๆ จะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวเราพาเดินไปดูกันเลยค่ะ

เริ่มกันจากหน้าซุ้มโครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ ก่อนพาเข้าไปดูในโครงการเราไปดูรอบๆโครงการกันก่อนนะคะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการ จะมี Start Sport Arena ที่เป็นสนามกีฬาด้านในอยู่

ด้านหน้าStart Sport Arena จะมีลานจอดรถที่จอดได้เยอะทีเดียว

เราเดินไปดูทางฝั่งขวามือของโครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ กันก่อนนะคะ ก็จะเป็นฝั่งมุ่งหน้าไปออกถนนติวานนท์นั่นเอง

ฝั่งขวามือติดกับโครงการเลยจะมีร้านกาแฟสดอยู่

ถัดจากร้านกาแฟสดก็จะเป็นแผงขายอาหารหลายร้าน

แผงขายอาหารหลายๆร้านนี้รวมกันอยู่ใต้ด้านหน้าอาคาร และมีหลังคากันแดดกันฝนมาให้

ด้านในก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่ง พร้อมโต๊ะที่นั่งไว้บริการ ราคาก็อยู่ในช่วง 30 – 50 บาทต่อจานค่ะ

ถัดจากแผงขายอาหาร จะเป็นป้ายรอรถประจำทางของคนในย่านนี้

จะมีรถสองแถวผ่านมาเรื่อยๆค่ะ ไปส่งทั้งที่ถนนแจ้งวัฒนะและถนนเลี่ยงเมือง และบิ๊กซีที่แถวแยกปากเกร็ดด้วย ถือว่าสะดวกดีทีเดียว

ถัดจากป้ายรถประจำทางมาหน่อยก็จะเป็นหมู่บ้านเดี่ยว 2 ชั้นชื่อหมู่บ้านสิวลี

ตรงข้ามหมู่บ้านสิวลี ห่างจากโครงการประมาณ 150 เมตร จะมีหมู่บ้านเอื้ออาทร (วัดคู้ 2) ซึ่งโซนด้านหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการหลายอย่างค่ะ อย่างด้านหน้านี่ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่

อัตราค่าโดยสารค่ะ ออกไปถนนใหญ่ติวานนท์คิด 15 บาท

โซนด้านหน้าของหมู่บ้านเอื้ออาทรจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ด้านล่างมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

หัวมุมด้านหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรตรงข้ามวินมอเตอร์ไซค์จะมี 7-11 เจ้าใหญ่อยู่ ด้านหน้ามีตู้ ATM และแผงขายอาหารอยู่ 2 – 3 ร้าน

ที่เห็นเปิดอยู่จะมีแผงร้านราดหน้ายอดผักและร้านบะหมี่เกี๊ยว

ไปดูทางฝั่งซ้ายมือของโครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ กันอีกหน่อย ฝั่งนี้จะมุ่งหน้าไปทางด้านในซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ค่ะ

ถัดจาก Start Sport Arena จะเป็นร้านขายสีทาบ้านและอุปกรณ์ก่อสร้าง และมีแท้งค์น้ำขายหลายแบบ

ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นร้านอลูมิเนียม กระจก มุ้งลวด ใครจะต่อเติมบ้าน มีร้านพวกนี้อยู่ใกล้ๆก็สะดวกดีค่ะ

สถานที่สำคัญ
– 7-11 หน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร 130 เมตร
– รร. อัมพรไพศาล 1.6 กม.
– รร. หอวังนนทบุรี 5.4 กม.
– รร. สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี 5.1 กม.
– รพ.กรุงไทย 2.9 กม.
– ม.สุโขทัยฯ 4.9 กม.
– อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี 6.5 กม.
– เมเจอร์ ฮอลลีวูด 5.5 กม.
– บิ๊กซี เอ๊กซ์ตร้า แจ้งวัฒนะ 5.5 กม.
– โฮมโปร แจ้งวัฒนะ 5.5 กม.
– เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 8 กม.
– แม็คโคร แจ้งวัฒนะ 8.7 กม.
– โลตัส แจ้งวัฒนะ 8.1 กม.
– บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ 8.6 กม.
– ไอที สแควร์ 11.2 กม.

ตัวโครงการ

ซุ้มทางเข้าออกโครงการ เป็นป้อมรปภ.ตรงกลาง แยกทางเข้าออกสองฝั่ง มีรั้วเหล็กกันตรงกลาง

ทั้ง 2 ฝั่งข้างซุ้มทางเข้าจะเป็นสนามหญ้า และป้ายโครงการที่อยู่ติดถนน ฝั่งซ้ายมือเป็นป้ายสูงของโครงการ เน้นให้รถเห็นได้ในระยะไกล

ฝั่งขวามือเป็นป้ายโครงการที่เน้นให้คนเดินเท้าเห็น ตัวป้ายจึงอยู่ในระดับสายตาเดินเท้าแบบนี้

เข้าไปดูในโครงการกันต่อค่ะ พื้นส่วนซุ้มทางเข้าออกจะเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ เข้าออกผ่านรั้วไม้กระดก คนในโครงการติดสติ้กเกอร์ คนนอกแลกบัตร

เข้ามาจะเจอถนนในโครงการ เป็นถนนคอนกรีต มีเกาะตรงกลาง กว้างประมาณ 14 เมตร รถสามารถจอดได้เลนนึง

เข้ามาหน่อยจะเจอส่วนคลับเฮ้าส์อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ โดยคลับเฮ้าส์นี่จะอยู่ตรงส่วนกลางๆของที่ดินโครงการ ข้อดีคือทำให้ไม่มีบ้านหลังไหนอยู่ห่างจากตัวคลับเฮ้าส์มากจนเกินไป สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก

ภายในคลับเฮ้าส์จะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ และห้องฟิตเนสที่ตอนนี้เป็นส่วนของสำนักงานขายอยู่นะคะ

เดินเข้ามาด้านในคลับเฮ้าส์ ก่อนทางเข้าห้องฟิตเนสจะเป็นส่วน Semi Outdoor แบบเพดานสูง เปิดรับลมธรรมชาติ พร้อมชุดที่นั่งมาให้ 3 ชุด

เปลือกอาคารเวลาแดดส่องลงมาจะเกิดเป็นจังหวะแสงกระทบกับพื้นแบบนี้สวยดีค่ะ

สำนักงานขายจะเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงหกโมงเย็น

เข้ามาดูในสำนักงานงานขายจะมีที่นั่งรับรองลูกค้าพร้อมเคาน์เตอร์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการอยู่ ในอนาคตพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นห้องฟิตเนสของโครงการค่ะ

ข้างสำนักงานงานขายจะมีทางเดินไปห้องน้ำอยู่ค่ะ

หน้าห้องน้ำหญิง ชาย จะมีล็อกเกอร์มาให้เก็บของก่อนลงสระได้

ภายในห้องน้ำหญิงค่ะ คือเปิดเข้าไปด้านในจะมีโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมืออยู่แบบนี้ ก็คือมีห้องน้ำหญิง 1 ห้อง ชาย 1 ห้อง

ออกมาดูสระว่ายน้ำกันต่อค่ะ ส่วนสระว่ายน้ำจะเป็นสระกลางแจ้งอยู่ติดกับคลับเฮาส์กว้าง 10×20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กลึก 60 เซนติเมตรและสระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร

ด้านข้างสระมีที่นั่งมาให้ 2 – 3 ชุด

จุดล้างตัวก่อนลงสระค่ะ เตรียมฝักบัวมาให้ 2 จุด

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนทาวน์โฮม จะมีสวนสาธารณะเป็นเกาะอยู่ตรงกลางอีกจุด

ในสวนสาธารณะปูสนามหญ้า ทำทางเดิน ปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มมาให้แบบนี้

ข้างทางเดินมีม้านั่งมาให้เป็นระยะๆ

มีสนามเด็กเล่นมาให้แบบนี้ค่ะ จะมีชุดปีนสไลเดอร์และม้าโยกมาให้อีกตัว

แบบบ้าน

โครงการมีแบบบ้านให้เลือก ทั้งบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และบ้านแบบทาวน์โฮม 2 ชั้นดังนี้ค่ะ

Topaz – พื้นที่ใช้สอยรวม 120 ตร.ม.
– 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
– ห้องรับแขก , ห้องรับประทานอาหาร
– ห้องครัวแยกเป็นสัดส่วน
– 2 ที่จอดรถ

Lapis – พื้นที่ใช้สอยรวม 163 ตร.ม.
– 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
– ห้องพักผ่อน , ห้องรับแขก
– ห้องรับประทานอาหาร ,ห้องครัวแยกเป็นสัดส่วน
– 2 ที่จอดรถ

Amethyst – พื้นที่ใช้สอยรวม 113 ตารางเมตร
-3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
– ห้องรับแขก , ห้องอเนกประสงค์ , ห้องรับประทานอาหาร
– 1 ที่จอดรถ

Turquoise – พื้นที่ใช้สอยรวม 131 ตารางเมตร
– 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
– ห้องรับแขก , ห้องรับประทานอาหาร
– 2 ที่จอดรถ

บ้านตัวอย่าง

บ้านตัวอย่างหลังแรกที่เราจะพาไปสำรวจกันคือแบบบ้าน Lapis เป็นบ้าน 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

ผังพื้นชั้นที่ 1 เข้าไปเจอส่วนห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปเป็นส่วนของพื้นที่ทานอาหาร อยู่ตรงกลาง ซ้ายมือเป็นห้องครัวและห้องน้ำ ห้องครัวเปิดเชื่อมต่อกับส่วนซักล้างด้านหลังบ้าน ขวามือถัดจากส่วนทานอาหารเป็นห้องอเนกประสงค์ของชั้นล่าง สามารถทำเป็นห้องนอน ห้องทำงานหรือห้องพักผ่อนเพิ่มเติมก็ได้

ผังพื้นชั้นที่ 2 ขึ้นบันไดมาด้านขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์ มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ครอบครัวสมารถมาใช้ร่วมกันได้ดี มีห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในห้องนอน ถัดมาเป็นห้องนอน 2 และ 3 จะใช้ห้องน้ำร่วมกัน

หน้าตาของบ้านเป็นแบบนี้ค่ะ จริงๆหน้าตาบ้านทั้ง 3 แบบในโครงการจะคล้ายๆกันนะคะดูจากภายนอก ก็เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่งสีด้วยสีโทนเอิร์ธโทนเป็นหลักให้ดูสบายตา ชั้นบนมีระเบียงและผนังตกแต่งที่ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวบ้าน ประตูและหน้าต่างเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบบานเป็นอลูมิเนียมสีดำ

โครงสร้างบ้านเป็นเสาคาน ผนังก่ออิฐ ฉาบปูน เหมือนกันทุกหลัง วัสดุที่ใช้ในบ้านเดี่ยวของโครงการทุกแบบรวมทั้งรูปแบบการก่อสร้าง ดีไซน์และวัสดุจะเหมือนๆกันนะคะ คือหลักๆจะต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยนั่นเอง

กำแพงและรั้วบ้านสูง 1.3 เมตร ประตูรั้วบ้านเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำเปิดปิดแบบบานเลื่อน ที่กำแพงใกล้ประตูรั้วเข้าบ้านจะมีโคมไฟติดที่หัวเสาสำหรับตอนกลางคืนและกริ่งเรียกพร้อมตู้จดหมายติดเลขที่บ้านมาให้

กำแพงรั้วบ้านสูง 1.3 m. เจาะช่องเก็บขยะจากภายนอกบ้านมาให้ ข้อดีคือเราสามารถทิ้งขยะจากภายในรั้วบ้านได้โดยไม่ต้องออกมานอกบ้านแบบนี้

มองไปส่วนเฉลียงหน้าบ้าน จะเห็นว่ามีพื้นที่สวนด้านหน้ากว้างพอปลูกพุ่มไม้ หรือไม้ยืนต้นเพิ่มความเป็นตัวให้ในตัวบ้านเพิ่มได้

ด้านข้างของบ้านปูสนามหญ้ามาให้แบบนี้ จะเห็นว่าข้างบ้านมีพื้นที่สวนกว้างพอสมควรเลยค่ะ ต่อเฉลียงออกมานั่งเล่นได้สบายๆเลย

ส่วนลานจอดรถใต้อาคารหน้ากว้างประมาณ 5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน มีหลังคากันแดดกันฝนให้รถ ฝ้าเพดานลานจอดรถติดโคมไฟซาลาเปามาให้ได้ตามที่เห็น พื้นเป็นลานคอนกรีตฉาบเรียบ แยกโครงสร้างกับตัวบ้านเพื่อกันทรุดมาให้เรียบร้อยและโรยด้วยหินแม่น้ำตกแต่งมาให้

ที่ผนังลานจอดรถจะมีช่องเก็บของพร้อมบานปิดมาให้แบบนี้

ทางเข้าส่วนลานจอดรถ มีพื้นยกระดับขึ้น 1 สเต็ปเพื่อกันฝุ่นและสะดวกล้างทำความสะอาดพื้น ประตูลานจอดรถเป็นบาน HDF สีขาว มือจับแบบก้านโยกสแตนเลส ผนังใกล้ประตูมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้าพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ และ Door Stopper กันบานประตูกระแทกผนัง

ส่วนทางเข้าหลักที่เฉลียงหน้าบ้าน มีบันไดทางขึ้น 1 ขั้นไปยังพื้นเฉลียงซึ่งปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีครีม ขนาด 30 x 30 ซ.ม. เพดานเฉลียงติดโคมซาลาเปามาให้สำหรับเวลากลางคืน ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อน กระจกเขียวตัดแสง กรอบ UPVC สีดำ

มือจับภายนอกเป็นรูกุญแจ ส่วนภายในเป็นมือจับหูช้างพร้อมตัวบิดล็อก

เข้ามาในบ้านส่วนแรกเป็นห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร ผนังโดยรอบห้องนี้ติดหน้าต่างมาให้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้โดยรอบ ซึ่งจะทำให้บ้านดูโปร่งโล่งไม่อับทึบ ถ้าจัดสวนสวยๆเปิดม่านออก ก็มีบรรยากาศภายในบ้านที่เหมือนอยู่ในสวน

จะเห็นว่ามีระยะเดินผ่านเข้าออกสบายๆไม่อึดอัด มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.5 ม. ก็เป็นระยะสามารถวางทีวีจอใหญ่ขนาด 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 ซ.ม.ฝ้าเพดานของจริงเป็นยิปซั่มฉาบเรียบสูง 2.6 ม. ส่วนผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาวและติดไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง

ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งได้ พร้อมสตูล โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ

มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ก็ทำ Built in เพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีและทำให้บรรยากาศในบ้านดูน่าสนใจขึ้นตามสไตล์ของผู้อยู่ด้วยค่ะ

ส่วนของจริงจะมาเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีแบบนี้นะคะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นส่วนรับประทานอาหาร จัดโต๊ะอาหารวางสำหรับ 6 ที่นั่งมาให้ซึ่งดูกำลังสวยนะคะ เนื่องจากมีระยะเดินรอบๆพอเหมาะ โดยส่วนห้องรับประทานจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องครัวปิดทางซ้ายและห้องอเนกประสงค์ทางขวา

ประตูทางเข้าห้องอเนกประสงค์เป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 บาน มือจับเซาะร่อง ของจริงหน้าบานจะเป็นกระจกใสนะคะ

ภายในห้องตัวอย่างจัดมาเป็นห้องนอนค่ะ จัดเป็นห้องนอนผู้อาวุโสก็เหมาะนะคะ เนื่องจากไม่ต้องขึ้นบันได ในห้องก็จะวางเตียงเดี่ยวชิดฝาผนัง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานมาให้ดูระยะใช้งาน

ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 60 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีแล้วยังพอมีระยะเปิดปิดชั้นได้อยู่

ไปดูส่วนห้องครัวกันต่อนะคะ

ส่วนห้องครัวเป็นครัวแบบปิด ห้องตัวอย่างทำชุดครัว Built in มาให้ดูระยะใช้งาน

ของจริงก็มีเคาน์เตอร์ก่อปูนรูปตัว L มาให้ พร้อมผนังกระเบื้องกันเปื้อนหลังเคาน์เตอร์

มองกลับไปที่ประตูทางเข้ามาห้องครัว ห้องตัวอย่างทำเคาน์เตอร์ Built in มาให้ดูอีก 1 จุดเป็นไอเดีย ซึ่งก็ช่วยเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารได้ดีเลยค่ะ

ส่วนบ้านเปล่าจะไม่มีเคาน์เตอร์ส่วนนี้มาให้ แต่จะเตรียมท่องานระบบและปลั๊กไฟมาให้แทน

ที่ห้องครัวนี้จะมีประตูเปิดออกไปส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้านอยู่

ลานหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตแยกโครงสร้างกับตัวบ้านกันพื้นยุบตัวและรอยร้าวนะคะ พื้นลานลดระดับลงจากพื้นครัวประมาณ 10 เซนติเมตร มีหลอดไฟติดไว้ให้เหนือประตู

เข้าบ้านมาดูส่วนห้องน้ำชั้น 1 กันต่อค่ะ ห้องน้ำชั้น 1 จะอยู่ตรงกลางระหว่างบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 และห้องครัวนะคะ

ห้องน้ำชั้น 1 จะมีส่วนอาบน้ำอยู่ด้วยนะคะ แต่เข้ามาจะเจอส่วนของโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ด้านหลังมี Low Wall มาให้วางของเพิ่มได้เต็มความกว้างของผนังแบบนี้ พื้นห้องน้ำลดระดับจากส่วนพื้นห้องนั่งเล่นลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิกสีเบจขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จรดเพดานค่ะ กระจกเงาได้ขนาดตามนี้ เหนือโถสุขภัณฑ์มีหน้าต่างมาให้ 1 ชุด เป็นบานฟิกซ์ด้านล่างและบานกระทุ้งด้านบน ที่ทำหน้าบานมาให้ค่อนข้างใหญ่คือเพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องน้ำสว่าง และทำให้เปิดได้เฉพาะด้านบนเพื่อความปลอดภัยค่ะ

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างล้างมือให้ดูค่ะ เป็นอ่างจากแบรนด์ Englefield by Kohler

สุขภัณฑ์ของ Englefield พร้อมสายฉีดชำระสีเงิน

ผนังที่ติดตั้งฝักบัวมีเจาะช่องสำหรับวางของมาให้สูงดีค่ะ สามารถติดชั้นเพิ่มที่วางของได้อีกชั้นนึงเลย เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวให้ดูค่ะ ก็มีขนาดกำลังเหมาะมือดี

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งฉาบปูนทาสีขาว ลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ราวจับบันไดเป็นเหล็กทาสีขาว มือจับเป็นไม้สีเดียวกับพื้นลูกนอน

ที่โถงบันไดชั้นสองจะเห็นว่าตรงชานพักจะมีขั้นบันไดสามเหลี่ยมบริเวณชานพัก 3 ขั้น เวลาเดินขึ้นลงต้องระวังสะดุดกันด้วยนะคะ

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ ที่โถงบันไดชั้นสองจะเห็นว่าตรงชานพักจะมีช่องแสงช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาเพื่อส่องให้โถงบันไดสว่างขึ้นด้วยค่ะ เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์นะคะ ด้านข้างจะมีไฟผนังติดมาให้ 1 จุด ถ้ากลัวตอนกลางคืนสว่างไม่พอ แนะนำให้แขวนโคมไฟเพิ่มที่เพดานโถงบันไดได้อีกจุด

จากโถงบันไดมองไปทางขวามือ จะเป็นส่วนพื้นที่อเนกประสงค์ หรือ Family Area อยู่

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่ามีเตรียมงานปลั๊กไฟมาให้ และมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้

Family Area หรือ ห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นสองนี้จะอยู่ส่วนด้านหน้าบ้านค่ะ เป็นพื้นที่สำคัญที่คนในครอบครัวจะได้มาใช้ร่วมกันก่อนนอน หรือพักผ่อนร่วมกันนะคะ เพราะมีความเป็นส่วนตัวกว่าชั้นล่าง ในบ้านตัวอย่างวางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้ด้านข้าง มาให้ดูระยะใช้งาน

ทำชั้นวางทีวีแล้วและมีระยะให้วางโต๊ะกลางได้โดยไม่เกะกะทางเดิน

จาก Family Area จะมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานเปิดออกไประเบียงได้ ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ ออกแบบมาครึ่งนึงเป็นแนวตั้ง ครึ่งนึงเป็นแนวนอน

โดยพื้นระเบียงจะลดระดับต่ำกว่าพื้นห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร ปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สังเกตที่เพดานระเบียงจะเห็นชายคาระเบียงยื่นออกมาเยอะดีนะคะ แบบนี้เวลาฝนตกก็จะไม่สาดเข้ามาในระเบียงมากนักด้วย

จากระเบียงมองเข้าไปที่ Family Area ชั้น 2

ที่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ติดกับ Family Area จะมีประตูทางเข้าไปส่วนห้องนอนใหญ่อยู่

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์โดยเหลือระยะเดินรอบๆได้สบายๆนะคะ ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งวางโต๊ะข้าง และโซฟาแบบ Day Bed มาให้ดูระยะใช้งาน

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ สังเกตว่าที่หัวเตียงจะมีหน้าต่างอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง หน้าต่างแบบบานเปิด

ด้านข้างอีกข้าง เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ มีหน้าต่างเปิดได้ 1 บาน

มองไปที่ฝั่งปลายเตียงวางชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงานมาให้ดูระยะใช้งาน

มองไปฝั่งประตู จะมีมุม Walk in closet และทางเข้าไปห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ห้องตัวอย่างทำ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ พอวางตู้เสื้อผ้าไปแล้วเหลือระยะใช้งานประมาณ 70 เซนติเมตร

ภาพจากบ้านเปล่าจะเป็นมุมยุบเข้าไปก่อนทางเข้าไปห้องน้ำแบบนี้

เข้าไปดูในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันต่อ ธรณีประตูเป็นพื้นลามิเนต

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำส่วนแห้งเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำ แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกโดยก่อธรณีขึ้นมา 5 เซนติเมตร วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างมาให้ 1 ชุด เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ สังเกตที่ผนังหลังฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย และเจาะช่องวางของมาให้สูงทีเดียว สามารถวางชั้นวางของเข้าไปเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวให้ดู จะเห็นว่ามีขนาดกำลังดีค่ะ

ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมี Low Wall มาให้วางของเพิ่ม

สวิตช์ไฟเป็นของ schneider

ออกจากห้องนอน มองไปทางฝั่งหลังบ้าน จะเห็นห้องน้ำชั้น 2 อยู่ตรงกลาง และประตูทางเข้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ซ้ายขวา เราเลี้ยวไปดูห้องนอนขวากันก่อนเลย

ห้องนอนขวามือจัดมาเป็นเตียงคู่ 5 ฟุตชิดฝาผนังมาให้ พร้อมตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน และชั้นวางทีวีปลายเตียง

ภาพห้องเปล่าของห้องนอนเล็ก มีหน้าต่างมาให้ 2 ชุดตามที่เห็น สังเกตว่าไฟในห้องนอนเล็กจะเป็นโคมซาลาเปานะคะ

ข้างเตียงพอวางตู้เสื้อผ้าไปแล้วยังมีระยะพอวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้

ปลายเตียงนี่ปูพรมทำเป็นที่นั่งเล่นน่าชั้นวางทีวีได้เลยค่ะ เพราะวางชั้นวางทีวีไปแล้วก็ยังมีระยะเหลืออีกกว่า 1.2 เมตร

ไปดูห้องน้ำรวมชั้น 2 ห้องตรงกลางกันต่อ

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำส่วนแห้งเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำ แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกโดยก่อธรณีขึ้นมา 5 เซนติเมตร วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างมาให้ 1 ชุด เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ สังเกตที่ผนังหลังฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย และเจาะช่องวางของมาให้สูงทีเดียว สามารถวางชั้นวางของเข้าไปเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้

ห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายอยู่ทางซ้ายมือจะมีขนาดเล็กทีสุดนะคะ ห้องตัวอย่างวางเตียงเดี่ยวชิดผนังมาให้

ภาพห้องเปล่าของห้องนอนเล็ก มีหน้าต่างมาให้ 2 ชุดตามที่เห็น สังเกตว่าไฟในห้องนอนเล็กจะเป็นโคมซาลาเปานะคะ

แต่ปลายเตียงห้องนี้จะเล็กกว่าห้องนอนเล็กห้องขวานะคะ คือวางเตียงแล้วเหลือระยะประมาณ 50 เซนติเมตร แต่พอวางชั้นวางทีวีได้อยู่

ข้างเตียงวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของเข้าไปแล้วก็ยังเหลือระยะเดิน ระยะเปิดตู้ ประมาณ 50 เซนติเมตร กำลังพอดีๆ

บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 ที่จะพาไปชมกันจะเป็นทาวน์โฮม2 ชั้น แบบ Turquoise มีพื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน

หน้าตาบ้านเปล่าค่ะ หน้าตาโดยรวมของตัวบ้านจะมีดีเทลค่อนข้างเยอะไม่เหมือนทาวน์โฮมตลาดทั่วๆไป โดยจะเน้นโทนสีอ่อนขาวครีม แต่งผนังบางส่วนด้วยผนังหินชั้นทำให้ดูหรูหราขึ้น

พร้อมระแนงเหล็กตกแต่งผนังชั้น 2 และราวระเบียงเหล็กสีขาวเข้ากับรั้วบ้านซึ่งเป็นเหล็กพับสามตอน ลานจอดรถจะเป็นคอนกรีตปูเหล็กเข็มสั้น On ground ผิวขัดหยาบ หน้ากว้างประมาณ 5.7 เมตร จอดรถได้ 2 คัน สังเกตว่าใต้ชายคาบ้านที่หลังคาด้านบนจะทำเป็นผิวไม้ด้วย

บ้านหลังนี้จะเป็นแบบ 2 ที่จอดรถค่ะ สาเหตุที่ทำเป็น 2 ที่จอดรถได้เพราะว่าบ้านหลังนี้จะมีความลึกของตัวบ้านมากกว่า (และมีขนาดที่ดินใหญ่กว่า) ทำให้พื้นที่ภายในบ้านมีมากพอโดยไม่ต้องมาเบียดพื้นที่ของลานจอดรถนั่นเอง

ดูจาก Floor Plan แล้ว จากลานจอดรถเป็นประตูเข้าบ้าน ซึ่งก็เช่นเดียวกัน เข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่โซฟานั่งดูทีวีก่อน แต่บ้านหลังนี้จะมีพื้นที่ในการดูทีวีที่กว้างกว่า แต่พื้นที่กินข้าวจะถูกบีบเข้ามาให้ชิดกับพื้นที่โซฟา, แพนทรี่ด้านหลังโต๊ะกินข้าว และพื้นที่ลานซักล้างหลังบ้านยังเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ว่าห้องเอนกประสงค์ชั้นล่างจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนแล้ว ส่วนห้องน้ำใต้บันไดก็พื้นที่ใกล้เคียงของเดิม แต่จะไม่มี Step บันไดลดระดับแล้ว

ส่วนพื้นที่ชั้น 2 จะมีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวแล้ว กลายเป็นเพิ่มห้องน้ำเข้ามาอีก 1 ห้อง และ พื้นที่ห้องนอนแต่ละห้องจะใหญ่ขึ้นอีกหน่อย ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ที่พื้นที่โถงบันไดชั้น 2 ยังมีจุดเด่นอีกคือบ้านแบบนี้มีห้องพระมาให้ด้วย โดยจะเป็นลักษณะเหมือนชั้นลอยเพิ่มมาให้ค่ะ

ส่วนนี่เป็นบ้านตัวอย่างค่ะ จะเป็นอย่างไรเข้าไปดูกันเลยค่า

พื้นทางเข้ามีเฉลียงตื้นๆ กว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ยกพื้นสูงประมาณ 15 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. ระยะเฉลียงตรงนี้ถือว่าสั้นไปสำหรับการมีที่จอดรถอยู่หน้าบ้านแบบนี้ เวลาถอยจอดต้องถอยด้วยความระมัดระวังนะคะ เพราะจะไม่มีตัวกันท้ายรถกับประตูบ้าน เพดานระเบียงติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ได้ตามนี้

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดได้บานเดียว กระจกเขียวตัดแสง บานกรอบ อลูมิเนียมสีขาว ด้านข้างมีกระจกบานฟิกซ์เป็นช่องแสงธรรมชาติเข้าตัวบ้านเพิ่มอีกจุด

เข้ามาในบ้านส่วนแรกเป็นห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 ม. ก็เป็นระยะสามารถวางทีวีจอขนาด 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 ซ.ม.ฝ้าเพดานของจริงเป็นยิปซั่มฉาบเรียบชั้นล่าง 2.75 ม. ส่วนผนังฉาบปูนเรียบทาสีและติดไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง

ห้องรับแขกสามารถวางโซฟาขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่งพร้อมวางโต๊ะกลางได้ในระยะกำลังดี

มองไปทางชั้นวางทีวี ผนังจะถูกขนาบซ้ายขวาด้วยห้องน้ำและบันไดขึ้นชั้น 2 ทำให้ไม่สามารถวางทีวีหรือชั้นที่กว้างกว่านี้ได้

พื้นที่วางทีวีตรงนี้ของจริงจะเป็นผนังฉาบปูเรียบทาสีเว้าเข้าไปลึกประมาณ 45 เซนติเมตรแบบนี้ และขนาบซ้ายขวาด้วยประตูห้องน้ำและบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 เหมือนกันนะคะ

ห้องน้ำชั้น 1 จะมีส่วนอาบน้ำแต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้

คือผนังกรุกระเบื้องเซรามิกจรดเพดาน ส่วนเพดานที่เราเห็นตัดเฉียงลงมาในส่วนโถสุขภัณฑ์นั้นเพราะว่าห้องน้ำอยู่ใต้คานบันไดนั่นเองค่ะ แต่เนื่องจากบ้านมีเพดานค่อนข้างสูงคือ 2.75 เมตร เลยไม่ทำให้เพดานส่วนลาดนั้นต่ำจนลุกนั่งลำบาก

โถสุขภัณฑ์ของ Englefield พร้อมสายชำระและที่แขวนทิชชู่สแตนเลส

ชุดฝักบัวพร้อมที่วางสบู่ก็เป็นแบบเดียวกันค่ะ แต่บ้านหลังนี้จะไม่มีเจาะผนังทำที่วางแชมพูครีมนวดมาให้ แนะนำให้ทำชั้นเข้ามุมเพิ่มนะคะ

เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดกำลังพอดีมือ

อ่างล้างมือเป็นทรงกลมของ Englefield พร้อมกระจกเงาก็ได้แบบเดียวกันค่ะ

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ จะเห็นว่าไม่มีที่วางของรอบๆอ่างมากนัก พอวางยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ล้างมือได้ แต่ถ้าใครอยากวางของเยอะ แนะนำให้ต่อเคาน์เตอร์เพิ่มนะคะ

ถัดจากห้องรับแขกมาจะเป็นพื้นที่โซนรับประทานอาหารและห้องอเนกประสงค์ ห้องอาหารจัดมา 4 ที่นั่งขนาดกำลังพอดีค่ะ

ใกล้ๆกับส่วนห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ มีหน้าต่างกระจกเข้ามุมมาให้ ได้ตามที่เห็น

สำหรับห้องอเนกประสงค์ของบ้านตัวอย่างหลังนี้จัดมาเป็นห้องนอน มีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 ชุด วางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตมาแล้ว เหลือพื้นที่ข้างเตียง พอวางโต๊ะข้างและตู้เสื้อผ้าแล้วกำลังพอดี

ปลายเตียงเหลือระยะแค่ประมาณ 20 เซนติเมตร ถ้าจะติดทีวีปลายเตียงแนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนหรือจะทำเป็นเหมือนชั้น Built in ปลายเตียงแบบในห้องตัวอย่างก็ได้

มองไปทางอีกฝั่งผนังตรงข้ามเตียงมีระยะพอทำโต๊ะทำงานหรือชั้นวางของเพิ่มได้อย่างในห้องตัวอย่าง

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดเป็นบันไดตีทึบ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนบันไดเป็นไม้ยางพาราประสานเหมือนกันกับบ้านหลังแรกที่พาไปสำรวจกัน ที่โถงบันไดจะมีหน้าต่างมาให้ 1 บานเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าสู่โถงบันได

ชานพักบันไดแบบสามเหลี่ยมมี 2 ตอน ตอนละ 2 ขั้น มีมือจับราวบันไดมาให้ข้างนึง มือจับเป็นไม้สีเดียวกันกับลูกนอนบันได

โถงบันไดชั้น 2 พื้นชั้นปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ที่ชั้น 2 นี่จะมีห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 2 ห้องนะคะ

เราไปดูห้องนอนเล็กห้องแรกที่อยู่ติดบันไดกันก่อน

ห้องนอนเล็กห้องแรกมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 1 ชุด โดยวางเตียง 3.5 ฟุตชิดริมหน้าต่าง

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 30 เซนติเมตร วางโต๊ะข้าง ทำBuilt in โต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูระยะใช้งาน

จากเตียงมองไปที่ประตูห้องจะมีตู้เสื้อผ้าวางมาให้ดูระยะใช้งานที่กำลังพอดีๆ

ห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ติดกันจะมีขนาดใหญ่กว่าหน่อยและมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 2 ชุด บนผนังฝั่งละชุด บ้านตัวอย่างวางเตียงคู่ขนาด 5 ฟุตชิดผนังมาให้ ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 70 เซนติเมตร ทำ Built in ชั้นวางของและโต๊ะทำงานยาวเต็มความกว้างผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย

มองไปทางฝั่งปลายเตียง จะเห็น Built in ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้ายาวเต็มความกว้างผนังแบบนี้ ดูมีพื้นที่ใช้งานเยอะดีค่ะ

ข้างเตียงฝั่งหัวเตียงวางโต๊ะข้างและตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะ ใช้งาน จริงๆวางโต๊ะขนาดใหญ่กว่านี้ หรือผลักเตียงมาไว้ตรงกลางไม่ชิดผนังแบบในห้องตัวอย่างก็สามารถทำได้นะคะ เนื่องจากมีระยะพอ

เรามาดูห้องน้ำรวมชั้น 2 ที่โถงบันไดกันต่อค่ะ

ห้องน้ำชั้น 2 ลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ คือเป็นของ Englefield จัดเข้ามุมมาแบบนี้

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานติดไฟดาวน์ไลท์

เข้าไปดูส่วนห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงและห้องน้ำในตัว

ภาพมุมเดียวกันจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่าฝั่งหัวนอนในห้องนอนใหญ่มีหน้าต่างบานเปิดมาให้ 3 บานและประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงแบบนี้

ภาพบ้านเปล่ามองไปทางส่วนที่นอนในห้องนอนใหญ่

ภาพจากบ้านตัวอย่างค่ะ เนื่องจากชั้น 2 มีความสูงเพดานถึง 3 เมตร ใครชอบทำไฟซ่อน ฝ้าหลุมก็เล่นกันได้เต็มที่อย่างที่เห็นนะคะ ความสูงพอสบายๆอยู่แล้ว

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 1 เมตร มีประตูอยู่ที่ผนังฝั่งปลายเตียง ทำให้ไม่สามารถวางชั้นวางทีวีที่กว้างมากหรือวางในตำแหน่ง Center หรืออยู่ตรงกลางเตียงพอดีได้ เนื่องจากติดประตู

ข้างเตียงฝั่งติดผนังมีระยะประมาณ 70 เซนติเมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆค่ะ

มองไปผนังอีกฝั่งจะเห็นว่ามีมุมที่เหมาะทำโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบในห้องตัวอย่าง

ภาพมุมเดียวกันจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงและประตูทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

พื้นระเบียงในห้องนอนใหญ่ลดต่ำลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านขนาด 30×30 เซนติเมตร และมีราวกันตกเป็นเหล็กทาสีขาว ระเบียงลึกประมาณ 1 เมตร พื้นส่วนนึงของระเบียงใช้วางแอร์คอมเพรสเซอร์เหมือนในห้องตัวอย่าง

เข้าไปดูส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ

ห้องน้ำชั้น 2 ลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ คือเป็นของ Englefield จัดเข้ามุมมาแบบนี้ และมีทำธรณีกั้นแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เพดานติดไฟดาวน์ไลท์

ส่วนอาบนำ้จะมีก่อธรณีขึ้นมา 5 เซนติเมตร แยกส่วนแห้งส่วนเปียกออกจากกั้น ตรงนี้สามารถติดฉากกั้นห้องเพิ่มได้นะคะ

มองออกไปที่ประตูทางเข้าห้องน้ำ จะเห็นอ่างล้างมือของ Englefield และกระจกเงาแบบเดียวกันกับห้องอื่นๆค่ะ แต่ห้องนี้มีระยะพอทำเคาน์เตอร์เพิ่มได้นะคะ เพราะมีระยะด้านข้างมากพอและไม่ขวางทางเดิน

ราคา (ก.พ.59)

• แบบ Terquoise แปลง F31 ที่ดิน 21.5 ตารางวา 131 ตารางเมตร ราคา 2.79 ล้านบาท
• แบบ Terquoise แปลง F34 ที่ดิน 21.2 ตารางวา 131 ตารางเมตร ราคา 2.62 ล้านบาท
• แบบ Topaz แปลง K02 ที่ดิน 38.1 ตารางวา 120 ตารางเมตร ราคา 3.89 ล้านบาท
• แบบ Topaz แปลง K03 ที่ดิน 38.1 ตารางวา 120 ตารางเมตร ราคา 3.89 ล้านบาท
• แบบ Lapis แปลง A32 ที่ดิน 53.6 ตารางวา 163 ตารางเมตร ราคา 5.55 ล้านบาท
• แบบ Lapis แปลง A31 ที่ดิน 57 ตารางวา 163 ตารางเมตร ราคา 5.69 ล้านบาท

• ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้าถึงเดือน มิ.ย. 60
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Golden Avenue แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ ตั้งอยู่ในซอยสุขาประชาสรรค์ 3 จุดสังเกตทางเข้าซอยคือจะตั้งอยู่ก่อนถึงโรงเรียนอัมพรไพศาล ..ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินถือว่าอุดมสมบูรณ์เลยนะคะ อันนี้เดี๋ยวเรามีรูปให้ดูรอบๆโครงการอีกที แต่คือใกล้ๆจะมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง และร้านอาหาร แผงขายอาหาร ผลไม้ และ 7/11 มีลานกีฬา มีอาคารพาณิชย์และสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่เยอะ เพราะเป็นย่านที่พักอาศัย นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเอื้ออาทรอยู่ ทำให้มีร้านอาหารขายเยอะ และมีราคาไม่แพง

ที่ห้าแยกปากเกร็ด ห่างจากโครงการไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีห้างทั้ง Homepro, Big C และ Major Hollywood ซึ่งอยู่ในรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตรจากโครงการ อย่างหน้า Major Hollywood นี่เย็นๆจะมีตลาดนัดด้วย นอกจากร้านอาหารภายใน Major เอง ภายนอก Major ก็มีร้านอาหารและอาคารพาณิชย์เปิดร้านพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกเพียบ และห้างใหญ่ของย่านนี้อย่าง Central แจ้งวัฒนะ ก็อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 6 กิโลเมตร

นอกจากนี้วิ่งจากถนนแจ้งวัฒนะ ไปถนนบอนด์สตรีท ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร จะเป็นโซนหน้าม.สุโขทัยซึ่งเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์มากค่ะ หาของกินง่าย ไม่ว่าจะร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารก็หาง่ายทั้งกลางวันกลางคืน มีร้านไก่ทอง มี Community Mall ชื่อ BeeHive อยู่ มี Tops อยู่ข้างในและร้านอาหารอีกหลายร้าน

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนใช้รถ โครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่ติวานนท์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยโครงการจะอยู่บนติวานนท์ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกสวนสมเด็จ ทางประชาชื่น

ถ้าจะเข้าเมือง ต้องกลับรถมาห้าแยกปากเกร็ดวิ่งออกมาเส้นแจ้งวัฒนะแล้วไปออกวิภาวดีเพื่อเข้าสู่ในเมือง หรือจะขึ้นทางด่วนศรีรัชก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถวิ่งมาเรื่อยๆบนเส้นติวานนท์ผ่านงามวงศ์วาน ม.เกษตรและทะลุออกเส้นพหลโยธินได้อีกด้วย ส่วนออกนอกเมืองก็จะไปโซนปทุมธานี และนนทบุรีค่ะ

สำหรับคนที่ใช้ทางด่วน ตัวโครงการอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช(สายบางปะอิน – ปากเกร็ด)ประมาณ 6.2 กิโลเมตร จากทางด่วนขับมาประมาณ 13 นาทีก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ก็ถือว่าสะดวกพอสมควรเลย

สมมติอย่างเราจะเข้าเมืองไปทองหล่อเอกมัยนี่ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ ถือว่าสะดวกเลย แต่ต้องเข้าใจว่าถนนสุขาภิบาล 5 เป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ทำให้ปริมาณคนปริมาณรถเยอะ ตอนเช้าและเย็นเวลาคนเข้าโรงเรียนคนไปทำงาน กับเวลาเลิกงานหรือกลับจากโรงเรียนก็ต้องเผื่อเวลาบนท้องถนนกันไว้ด้วยนะคะ

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปกติถ้าจากโครงการเลย ในซอยสุขาประชาสรรค์ 3 มีวินมอเตอร์และป้ายรถสองแถวที่ไปส่งถึงแจ้งวัฒนะ แยกปากเกร็ด ได้ โดยห่างจากซุ้มโครงการเพียง 150 เมตรเท่านั้น

สำหรับคนที่จะรอรถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นแจ้งวัฒนะนี่ก็ต้องรอประมาณ 5 ปีขึ้นไปค่ะ ถึงน่าจะมีโอกาสได้ใช้กัน สถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีปากเกร็ด ซึ่งห่างจากตัวโครงการไปประมาณ 5 กิโลเมตร คือไม่ได้ใกล้ในระยะเดินถึงแต่ถ้าต่อมอเตอร์ไซค์หรือแท้กซี่ไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ประมาณ 40 บาท ช่วยย่นเวลาในการเข้าสู่ตัวเมืองและเพิ่มทางเลือกสำหรับคนไม่ใช้รถได้ดีนะคะ ส่วนตอนนี้สายสีม่วงก็สร้างเสร็จแล้วและมีแผนเปิดให้บริการกันเดือนพฤษภาคม 2559 นี้

♦ บ้านและวัสดุ : หน้าตาโดยรวมของตัวบ้านและทาวน์โฮมจะมีดีเทลค่อนข้างเยอะไม่เหมือนตลาดทั่วๆไปค่ะ โดยจะเน้นโทนสีอ่อนขาวครีม แต่งผนังบางส่วนด้วยผนังหินชั้นทำให้ดูหรูหราขึ้น พร้อมระแนงเหล็กตกแต่งผนังชั้น 2 และราวระเบียงเหล็กสีขาว สังเกตว่าใต้ชายคาบ้านทาวน์โฮมที่หลังคาจะทำผิวไม้ด้วย

โดยรวมแล้วจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาให้ครบทั้งห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ แต่ไม่มีห้องครัว ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะทางโครงการทำโครงสร้างมารองรับการต่อเติมครัวไทยด้านหลังบ้านมาให้แล้ว ที่ชั้น 2 จัดมาให้เป็นโถงอเนกประสงค์และห้องนอนใหญ่ ที่มีระยะพอสำหรับวางเฟอร์นิเจอร และยังมีที่ทางให้ขยับได้อยู่ไม่อึดอัด

วัสดุได้ของคุณภาพดีโดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีและ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง, เพดนชั้นล่างสูง 2.75 เมตร ชั้นบนสูง 3 เมตร ซึ่งถือว่าให้มาสูงทีเดียวค่ะ มีผลดีคือทำให้บ้านโปร่ง และมีพื้นที่เก็บของแนวตั้งได้เยอะ

ลานจอดรถเป็นลานคอนกรีต, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Englefield ห้องน้ำไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้แต่จะมีการก่อธรณีสูงขึ้นมาให้ในบางห้อง

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น อลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ เรื่องการระบายอากาศก็เตรียมมาให้โอเค คือห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดมาให้

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะมาให้ ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่รอบๆ Club House ลงต้นไม้ใหญ่ เล็ก ให้ความร่มรื่นค่อนข้างเยอะ คือเน้นรักษาภูมิทัศน์ภายในโครงการ และรอบๆโครงการได้ดีค่ะ ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ ทางเท้าปูหญ้าและวางแผ่นหินสำหรับเดินให้

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย : เข้า-ออกโครงการด้วย รั้วไม้กระดก + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว รั้วรอบโครงการสูง 2 ม. และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-584-1363
Website : http://www.goldenlandresidence.co.th/

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.335 รีวิว ทาวน์โฮม กัสโต้ ท่าน้ำนนท์ – พระราม 5 GUSTO Townhome THANAMNON – RAMA 5

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ติดถนนบางศรีเมือง หรืออีกชื่อก็คือถนนท่าน้ำนนท์ เนื่องจากเป็นถนนที่วิ่งไปท่าน้ำนนท์ ท่าเรือด่วนเจ้าพระยาที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 500 เมตร บริเวณรอบๆโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้อใกล้หน้าโครงการ ตลาด ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆในระยะเดินถึงสบายๆ

ทาวน์โฮมออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงเกือบ 3 เมตร ทำให้บ้านโปร่ง โล่ง สบาย อากาศถ่ายเทสะดวก พร้อมพื้นที่สวนพักผ่อน และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โดยทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ราคาเริ่มต้น 2.45 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสายท่าน้ำนนท์ ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

พิกัด google map : 13.842266, 100.483519

ตัวโครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 นั้นตั้งอยู่ติดถนนบางศรีเมือง หรืออีกชื่อนึงคือถนนท่าน้ำนนท์ตามชื่อเลยค่ะ เนื่องจากเป็นถนนบางศรีเมืองที่วิ่งไปที่ท่าน้ำนนท์ ซึ่งเป็นท่าเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา และท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เต็มไปด้วยร้านอาหาร และแผงขายอาหารที่ขายกันมานาน

ท่าน้ำนนท์อยู่ห่างจากโครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 ประมาณ 500 เมตร เป็นโซนที่พูดได้ว่าของกินเพียบนะคะ และมีคนรีวิวร้านอาหารเอาไว้เยอะมากๆ สามารถเข้าไปอ่านไปดูร้านอาหารกันได้ที่นี่ และที่นี่ ก็เข้าไปอ่านกันดูได้นะคะ มีร้านอาหารน่าทานเยอะมากเลย ทั้งส้มตำเจ้าเด็ด, ก๋วยเตี๋ยว, เกาเหลา, เบเกอรี่ ที่ชาวเมืองนนท์ส่วนใหญ่รู้จักกันดี

มีคนทำแผนที่ร้านอาหารอย่างละเอียดเอาไว้ด้วยค่ะ เครดิตคุณ อุ้ย (Digimantamer) เจ้าของกระทู้ ไปเที่ยวหาข้าวเหนียวกินที่ท่าน้ำนนท์ครับผม จาก Pantip ลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ เจ้าของกระทู้พาเดินดูโซนร้านอาหารของท่าน้ำนนท์อย่างละเอียด ที่อ่านแล้วหิวอยากนั่งเรือข้ามฟากไปกินกันเลยทีเดียว

นอกจากท่าน้ำนนท์ ท่าเรือข้ามฟากที่เป็นโซนอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆโครงการแล้ว โครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 จะอยู่ติดถนนบางศรีเมือง ซึ่งเป็นโซนชุมชนที่อยู่กันมานาน มีร้านอาหาร ตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกข้างทางเยอะพอสมควร ห่างจากโครงการแค่ 60 เมตรก็จะมีร้านสะดวกซื้อ Family Mart ที่เปิด 24 ชั่วโมงพร้อมร้านอาหารข้างทางอีกหลายร้าน

ส่วนห้างที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น HomePro, The Crystal ราชพฤกษ์, The Walk ราชพฤกษ์ และ Home work ที่เกาะตัวกันอยู่บนถนนราชพฤกษ์ใกล้วงเวียนพระราม 5 ที่ค่อนข้างครบครันและสะดวก แล้วแต่ชอบว่าจะเดินห้างไหน

สำหรับคนชอบทำอาหาร นอกจากตลาดบางศรีเมือง และ ตลาดนัดศิริมงคล บนถนนบางศรีเมืองเองแล้ว ก็จะมี Makro นครอินทร์กับ Lotus นครอินทร์ อยู่บนถนนนครอินทร์ ขับรถไปทางสี่แยกบางศรีเมืองไปทางถนนสุขาภิบาล 1 ไปนครอินทร์ ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงก็ถือว่าสะดวกดีค่ะ

ตัวโครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 นั้นตั้งอยู่ติดถนนบางศรีเมือง เป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง โดยที่สี่แยกบางศรีเมือง ที่มีถนนสุขาภิบาล 1 ตัดผ่านนั้น จะเชื่อมต่อไปยังถนนนครอินทร์ ที่วิ่งไปออกสะพานพระราม 5 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หรือวิ่งไปวงเวียนพระราม 5 ไปถนนราชพฤกษ์ได้

จากแมพด้านบนจะเห็นว่าจากวงเวียนพระราม 5 มาโครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 มีระยะทางประมาณ 5.6 กม. หรือขับรถประมาณ 8 นาทีเท่านั้น เวลาจะเข้าออกเมืองก็มีความสะดวกมากขึ้น

และนอกจากที่วงเวียนพระราม 5 จะวิ่งจากถนนราชพฤกษ์ไปถนนบรมราชชนนี, เพชรเกษม และไปต่อ BTS บางหว้าได้แล้ว ถนนราชพฤกษ์โซนใกล้วงเวียนพระราม 5 ก็ยังเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีห้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น HomePro, The Crystal ราชพฤกษ์, The Walk ราชพฤกษ์ และ Home work เกาะตัวอยู่ใกล้ๆกัน จะมาช้อปปิ้งหรือหาอะไรทานก็แวะมาได้

นอกจากนี้ถนนสุขาภิบาล 1 ยังเชื่อมต่อกับถนนนนทบุรี 1 ซึ่งเชื่อมต่อกับสะพานนนทบุรี 1 หรือ สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สร้างเสร็จและเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในปีที่แล้ว (2558) ที่เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวกขึ้นนั่นเอง

จากแมพด้านบนจะเห็นว่าจากโครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 มา สะพานนนทบุรี 1 มีระยะทางประมาณ 3.8 กม. หรือขับรถประมาณ 7 นาทีเท่านั้น สำหรับคนขับรถก็ถือเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ใกล้ที่สุดแห่งหนึ่งค่ะ เวลาจะเข้าออกเมืองก็มีความสะดวกมากขึ้น

วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนราชพฤกษ์ → ตรงมาวงเวียนพระราม 5 → เลี้ยวขวาเข้าถนนนครอินทร์ → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางกรวย – ไทรน้อย → เลี้ยวขวาเข้าถนนบางศรีเมือง → ตรงผ่านแยกบางศรีเมืองมาประมาณ 200 เมตร จะเจอโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

เริ่มเดินทางกันจากถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปวงเวียนพระราม 5 จะเห็น Tops ซุปเปอร์มาร์เก็ตและโฮมเวิร์ค ราชพฤกษ์ อยู่ทางซ้ายมือ

ถัดมาจะเป็น the Crystal SB ราชพฤกษ์ ที่นอกจากจะเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ที่รวมร้านอาหารดีๆและสิ่งอำนวยความสะดวกเอาไว้หลายร้านแล้ว ภายในยังมี SB Design Square สาขาใหญ่ที่รวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านไว้หลายแบรนด์

ถัดมาจะเป็น HomePro ทางฝั่งซ้ายและ The Walk ราชพฤกษ์ทางฝั่งขวาค่ะ พอเราเห็นห้าง 2 ห้างนี้เราก็เตรียมออกซ้ายไปสะพานพระราม 5

พอออกซ้ายมาแล้วให้ตามป้ายวนขวาไปสะพานพระราม 5 ค่ะ

ตรงไปลอดใต้สะพานยกระดับ

แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนนครอินทร์

เราตรงมาเรื่อยๆบนถนนนครอินทร์ พอเห็นป้ายเตรียมชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าสู่ถนน บางกรวย-ไทรน้อย และไม่ขึ้นสะพานนะคะ

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางกรวย – ไทรน้อยค่ะ

จากถนนบางกรวยไทรน้อยไปโครงการนี่จะเป็นระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตรหรือขับรถประมาณ 8 นาทีถึงค่ะ คือเราตรงไปบนถนนบางกรวยไทรน้อยประมาณ 1.6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปถนนบางศรีเมือง ตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะเจอโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

ตรงไปบนถนนบางกรวย – ไทรน้อย ประมาณ 1.6 กม.

จะเจอป้ายบอกทางของโครงการให้เลี้ยวขวาเข้าถนนบางศรีเมืองค่ะ

ถนนบางศรีเมืองเป็นถนนสี่เลน สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ เราขับตรงไปตามทางเรื่อยๆนะคะ

ขวามือจะเห็นตลาดบางศรีเมือง เป็นตลาดสดที่อยู่ห่างจากโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 ประมาณ 750 เมตร

ตรงมาอีกนิดจะเจอแยกบางศรีเมือง ที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนบางศรีเมืองและถนนสุขาภิบาล 1 แยกบางศรีเมืองนี้จะอยู่ห่างจากโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น

จากแยกบางศรีเมืองตรงมาอีกประมาณ 200 เมตรก็จะเจอโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 อยู่ทางขวามือแล้วค่าา

บริเวณรอบโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียง
– ท่าเรือพระราม 5 1.9 กม.
– ท่าน้ำนนท์ 550 ม.
– รพ. วัดเฉลิมพระเกียรติ 750 ม.
– ครัวเสวย 5 กม.
– ตลาดบางศรีเมือง 600 ม.
– Home work ราชพฤกษ์ 6 กม.
– Crystal SB ราชพฤกษ์ 6.5 กม.
– HomePro ราชพฤกษ์ 8 กม.
– Villa Market ราชพฤกษ์ 8 กม.
– The Walk ราชพฤกษ์ 4 กม.
– Lotus บางใหญ่ 7.60 กม.
– มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ 5 กม.
– ร.ร. อนุบาลเด่นหล้า พระราม 5 6 กม.
– ร.ร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี 9.2 กม.
– ร.ร.เตรียมอุดมฯ บางใหญ่ 6 กม.
– อุทยานเฉลิมฯกาญจนาภิเษก 750 ม.
– วัดศรีเมือง 750 ม.
– วัดเฉลิมพระเกียรติ 750 ม.

รอบๆโครงการ

รอบๆโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 ส่วนใหญ่ที่ติดที่ดินโครงการเลยจะเป็นที่ดินบุคคลอื่นที่เป็นที่ว่างซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ นอกจากทิศตะวันออกก่อนถึง Family Mart ติดถนนบางศรีเมืองจะมีอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้นอยู่ และถัดออกไปจะมีโครงการทาวน์โฮมสูง 2 ชั้น

นอกจากนั้นรอบๆที่ดินโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ (บ้าน 1 – 2 ชั้น) และอาคารพาณิชย์ติดถนนบางศรีเมืองสูง 3 – 4 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ค่ะ รอบๆโครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่า

ซุ้มโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 จะอยู่ติดถนนบางศรีเมืองเลยค่ะ มองไปทางฝั่งขวามือจะมีศาลาพักผู้โดยสารอยู่หน้าโครงการ

ศาลาพักผู้โดยสารค่ะ จะไปไหนก็มานั่งรอรถสองแถวหรือรถแท้กซี่กันตรงนี้ได้

จากหน้าโครงการมองไปทางฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นอยู่อีกฝั่งนึงของถนนบางศรีเมืองแบบนี้

มองไปทางฝั่งซ้ายมือของโครงการ

จะมีทางเดินเท้าอยู่นะคะ ห่างออกไปประมาณ 60 – 70 เมตรจะมีร้านสะดวกซื้อ Family Mart อยู่

เป็นร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชั่วโมงที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ

คั่นระหว่างโครงการกัสโต้ท่าน้ำนนท์ กับ Family Mart จะมีอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้นอยู่

หน้า Family Mart ก็มีแผงขายอาหารและเครื่องดื่มอย่างแผงร้านกาแฟสดและร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น

ตรงข้าม Family Mart จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนตายมรสเยี่ยม

ตัวโครงการ

ซุ้มทางเข้าออกโครงการ Gusto Town Home ท่าน้ำนนท์-พระราม5 เป็นป้อมรปภ.ตรงกลาง แยกทางเข้าออกสองฝั่ง โดยสองฝั่งกำแพงด้านหน้าทางเข้าโครงการจะเป็นป้ายโครงการกัสโต้ ท่าน้ำนนท์ – พระราม 5

กำแพงด้านหน้าและป้ายโครงการ กัสโต้ ท่าน้ำนนท์ – พระราม 5 ค่ะ ป้ายก็จะใช้องค์ประกอบที่แสดงถึงธรรมชาติ อย่างพื้นผิวไม้ รูปกิ่งก้านต้นไม้ นก และปลูกไม้พุ่มและต้นไม้ด้านหลังเป็นฉากให้ป้ายโครงการอีกที

ป้อมรปภ.ตรงกลาง แยกทางเข้าออกสองฝั่ง ทางเข้าออกเป็นรั้วกั้นไม้กระดก

เข้าไปดูในโครงการกันต่อค่ะ พื้นส่วนซุ้มทางเข้าออกจะเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ เข้าออกผ่านรั้วไม้กระดก คนในโครงการติดสติ้กเกอร์ คนนอกแลกบัตร และมีกล้อง CCTV ส่องป้ายทะเบียนรถ

ทางเข้าโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร สองฝั่งข้างถนนยกพื้นปูสนามหญ้าและแผ่นหินทำเป็นทางเท้า พร้อมปลูกต้นไม้มาเป็นแนว

เข้ามาประมาณ 140 เมตร จะเจอวงเวียนวนรถ ส่วนบ้านทาวน์โฮมก็จะเริ่มจากตรงนี้เป็นต้นไปค่ะ

สำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือของวนเวียน โดยจะมีบ้านตัวอย่างอยู่ข้างๆ

สำนักงานขายและบ้านตัวอย่างจะเป็นทาวน์โฮม Type B นะคะ

ภายในสำนักงานขายจะมีที่นั่งรับรองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับโครงการอยู่

เข้าไปดูด้านในกันต่อค่ะ รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร และมีรั้วพุ่มไม้ปลูกเป็นแนวตกแต่งอีกชั้นเพื่อความร่มรื่น

สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง โครงการจะมีพื้นที่สวนสาธารณะไว้ให้เดินเล่นกันได้

ภายในสวนสาธารณะปูหญ้าและพื้นคอนกรีต พร้อมปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มมาให้ดูร่มรื่นดี

มีม้านั่งและไฟสำหรับตอนกลางคืนมาให้หลายจุด

มีมุมต้นไม้ร่มๆที่เหมาะจะนั่งเล่นอยู่

เข้าไปดูด้านในโครงการกันต่อค่ะ ถนนหน้าสวนสาธารณะนี่จะกว้าง 16 เมตร และมีวงเวียนมาให้วนรถอีกจุด

ตรงข้ามสวนสาธารณะจะมีสวนหย่อมอยู่อีก 1 จุด

ถนนในซอยย่อยจะกว้าง 8 เมตรค่ะ

บ้านทาวน์โฮมทุก 6-7 ยูนิตจะมีสวนหย่อมคั่นมาให้

หน้าบ้านมุมค่ะ บ้านทุกหลังรั้วทางเข้าจะเป็นรั้วเหล็กโปร่งสีดำ เปิดปิดแบบบานพับแบบนี้

บ้านตัวอย่าง

โครงการกัสโต้จะมีบ้าน Type A และ Type B ที่มีความต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยและที่จอดรถนะคะ Type B จะมีขนาดใหญ่กว่าและจอดรถได้ 2 คัน ส่วน Type A จอดได้ 1 คัน

บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันหลังแรกคือบ้าน Type B ที่จะมีบ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูระยะใช้งานพร้อมบ้านเปล่า ส่วนบ้าน Type A ตอนนี้จะมีเป็นบ้านเปล่าพร้อมขาย ซึ่งเราจะพาเข้าไปดูเช่นกันนะคะ เริ่มกันจากบ้านตัวอย่าง Type B กันก่อนเลยค่าา

บ้าน TYPE B ขนาดที่ดิน : 20.8 ตร.ว., พื้นที่ใช้สอย : 130 ตร.ม. 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ หน้าตาโดยรวมของตัวบ้านจะมีดีเทลค่อนข้างเยอะ โดยจะเน้นโทนสีอ่อนขาวครีม เทาอ่อน แต่งผนังบางส่วนด้วยผนังหินชั้นทำให้ดูหรูหราขึ้น สังเกตเพดานชายคาชั้น 2 จะทำผิวไม้มาให้ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

เอาผังมาให้ดูกัน บ้านหลังนี้จะเป็นแบบ 2 ที่จอดรถค่ะ สาเหตุที่ทำเป็น 2 ที่จอดรถได้เพราะว่าบ้านหลังนี้จะมีความลึกของตัวบ้านมากกว่า (และมีขนาดที่ดินใหญ่กว่า Type A ) ทำให้พื้นที่ภายในบ้านมีมากพอโดยไม่ต้องมาเบียดพื้นที่ของลานจอดรถนั่นเอง

ชั้น 1 จากลานจอดรถเข้ามาจะเป็นพื้นที่โซฟานั่งดูทีวีก่อน ตัวชั้นวางทีวีถูกจำกัดความกว้างไว้ด้วยบันไดทางขึ้นชั้น 2 และประตูห้องน้ำ ไม่มีครัวมาให้ แต่มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถใช้เป็นครัวปิดได้ หรือจะต่อเติมลานหลังบ้านเป็นครัวก็สามารถทำได้เช่นกัน

ชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว และ พื้นที่ห้องนอนแต่ละห้องจะใหญ่ขึ้นอีกหน่อย ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

ลานจอดรถของจริงจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบปูเหล็กเข็มสั้น On ground หน้าบ้านกว้างประมาณ 5.7 เมตร จอดรถได้ 2 คัน เพดานลานจอดรถติดไฟซาลาเปามาให้ ได้ตามที่เห็น

ตัวพื้นในบ้านจะยกระดับสูงกว่าพื้นลานจอดรถประมาณ 10 เซนติเมตร สำหรับการมีที่จอดรถอยู่หน้าบ้านแบบนี้ เวลาถอยจอดต้องถอยด้วยความระมัดระวังนะคะ เพราะจะไม่มีตัวกันท้ายรถกับประตูบ้าน กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบบาน UPVC สีขาว เลื่อนเปิดได้ทางเดียว ด้านข้างสองฝั่งประตูมีกระจกบานฟิกซ์เป็นช่องแสงธรรมชาติเข้าตัวบ้านเพิ่ม

มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานค่ะ ด้านนอกมีที่เสียบรูกุญแจ ด้านในมีตัวบิดล็อก

เข้ามาในบ้านส่วนแรกเป็นห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 ม. ก็เป็นระยะสามารถวางทีวีจอขนาด 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 ซ.ม.ฝ้าเพดานของจริงเป็นยิปซั่มฉาบเรียบสูง 2.8 ม. ส่วนผนังฉาบปูนเรียบทาสีและติดโคมไฟซาลาเปาแบบตามที่เห็นในบ้านเปล่า

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าบ้าน ในบ้านตัวอย่างทำอินทีเรียตกแต่งฝ้าเพดานและผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย

ของจริงจะเป็นฉาบปูนเรียบทาสีแบบนี้ค่ะ

ห้องรับแขกสามารถวางโซฟาขนาดประมาณ 3 – 4 ที่นั่งพร้อมวางโต๊ะกลางได้ในระยะกำลังดี และมีความต่อเนื่องกับส่วนห้องรับประทานอาหาร

มองไปทางชั้นวางทีวี ผนังจะถูกขนาบซ้ายขวาด้วยห้องน้ำและบันไดขึ้นชั้น 2 ทำให้ไม่สามารถวางทีวีหรือชั้นที่กว้างกว่านี้ได้

พื้นที่วางทีวีตรงนี้ของจริงจะเป็นผนังฉาบปูเรียบทาสีเว้าเข้าไปลึกประมาณ 45 เซนติเมตรแบบนี้ และขนาบซ้ายขวาด้วยประตูห้องน้ำและบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 เช่นกันค่ะ เดี๋ยวเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อ

พื้นห้องน้ำชั้น 1 ลดระดับลงไปจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 cm. จะมีส่วนอาบน้ำแต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ สุขภัณฑ์ห้องน้ำเป็นของ Victor

ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องเซรามิกจรดเพดาน ส่วนเพดานที่เราเห็นตัดเฉียงลงมาในส่วนโถสุขภัณฑ์นั้นเพราะว่าห้องน้ำอยู่ใต้คานบันไดนั่นเองค่ะ แต่เนื่องจากบ้านมีเพดานค่อนข้างสูงคือ 2.8 เมตร เลยไม่ทำให้เพดานส่วนลาดนั้นต่ำจนลุกนั่งลำบาก ผนังห้องน้ำมีตกแต่งกระเบื้องโมเสกมาให้ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ จะเห็นว่าไม่มีที่วางของรอบๆอ่างมากนัก พอวางยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ล้างมือได้ แต่ถ้าใครอยากวางของเยอะ แนะนำให้ต่อเคาน์เตอร์เพิ่มนะคะ

ชุดฝักบัวมาพร้อมที่วางสบู่ แต่บ้านหลังนี้จะไม่มีเจาะผนังทำที่วางแชมพูครีมนวดมาให้ แนะนำให้ทำชั้นเข้ามุมเพิ่มนะคะ เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดกำลังพอดีมือ

โถสุขภัณฑ์ของVictor พร้อมสายชำระสแตนเลสและที่แขวนทิชชู่

ถัดจากห้องรับแขกมาจะเป็นพื้นที่โซนรับประทานอาหารและห้องอเนกประสงค์

ห้องอาหารจัดมา 4 ที่นั่งขนาดกำลังพอดีค่ะ

ใกล้ๆกับส่วนห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ มีหน้าต่างกระจกเข้ามุมมาให้

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ

สำหรับห้องอเนกประสงค์ของบ้านตัวอย่างหลังนี้จัดมาเป็นห้องนอน วางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตมาแล้ว เหลือพื้นที่ข้างเตียง พอวางโต๊ะข้างและตู้เสื้อผ้าแล้วกำลังพอดี

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่ามีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 ชุด

มองไปทางประตูห้อง ผนังตรงข้ามเตียงมีระยะพอทำโต๊ะทำงานหรือชั้นวางของเพิ่มได้แบบในห้องตัวอย่าง ปลายเตียงเหลือระยะแค่ประมาณ 20 เซนติเมตร ถ้าจะติดทีวีปลายเตียงแนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนหรือจะทำเป็นเหมือนชั้น Built in ปลายเตียงแบบในห้องตัวอย่างก็ได้

ออกมาโซนรับประทานอาหารต่อ จะเห็นว่ามีระยะพอทำเคาน์เตอร์วางของแบบที่บ้านตัวอย่างทำมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานเพิ่มได้ดี

จะมีประตูเปิดออกไปลานหลังบ้านอยู่

ลานหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตฉาบเรียบ พื้นลานลดระดับลงจากพื้นครัวประมาณ 10 เซนติเมตร มีหลอดไฟติดไว้ให้เหนือประตูสำหรับตอนกลางคืน

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดเป็นบันไดตีทึบ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนบันไดเป็นไม้ยางพาราประสาน ที่โถงบันไดจะมีหน้าต่างมาให้ 1 บานเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าสู่โถงบันได

ชานพักบันไดแบบสามเหลี่ยมมี 2 ตอน ตอนละ 2 ขั้น มีมือจับราวบันไดมาให้ข้างนึง มือจับเป็นไม้สีเดียวกันกับลูกนอนบันได

พื้นชั้น 2 ปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ที่โถงบันไดชั้น 2 มีราวกันตกเป็นรั้วเหล็กทาสีขาว

ที่ชั้น 2 นี่จะมีห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 2 ห้อง

เราเข้าไปดูห้องนอนใหญ่กันก่อนเลยค่ะ

ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงและห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่ในบ้านตัวอย่างจัดเตียงนอน 5 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างและโต๊ะเขียนหนังสือมาให้

ภาพมุมเดียวกันจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่าฝั่งหัวนอนในห้องนอนใหญ่มีหน้าต่างบานเปิดมาให้ 3 บานและประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงแบบนี้

ภาพจากบ้านตัวอย่างค่ะ เนื่องจากมีความสูงเพดานถึง 2.8 เมตร ใครชอบทำไฟซ่อน ฝ้าหลุมก็เล่นกันได้เต็มที่อย่างที่เห็นนะคะ ความสูงพอสบายๆอยู่แล้ว

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 1 เมตร มีประตูอยู่ที่ผนังฝั่งปลายเตียง ทำให้ไม่สามารถวางชั้นวางทีวีที่กว้างมากหรือวางในตำแหน่ง Center หรืออยู่ตรงกลางเตียงพอดีได้ เนื่องจากติดประตู

ภาพบ้านเปล่ามองไปทางส่วนเตียงในห้องนอนใหญ่

มองไปผนังอีกฝั่งจะเห็นว่ามีมุมที่เหมาะทำโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบในห้องตัวอย่าง

ภาพมุมเดียวกันจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงและประตูทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน

พื้นระเบียงในห้องนอนใหญ่ลดต่ำลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านขนาด 30×30 เซนติเมตร และมีราวกันตกเป็นเหล็กทาสีดำ

เข้าไปดูส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ

ธรณีประตูห้องน้ำเป็นลามิเนตสีเดียวกับพื้นชั้น 2

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ คือเป็นของ Victor จัดเข้ามุมมาแบบนี้ และมีทำธรณีกั้นแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เพดานติดโคมไฟซาลาเปา

อ่างล้างมือของ Englefield เป็นแบบเดียวกันกับห้องอื่นๆค่ะ แต่ห้องนี้มีระยะพอทำเคาน์เตอร์เพิ่มได้นะคะ เพราะมีระยะด้านข้างมากพอและไม่ขวางทางเดิน

ส่วนฝักบัวอาบน้ำมีเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย

ไปดูห้องนอนเล็กห้องที่อยู่ติดบันไดกันต่อค่ะ

ห้องนอนเล็กห้องแรกมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 1 ชุด โดยวางเตียง 3.5 ฟุตชิดริมหน้าต่าง

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ

วางตู้เสื้อผ้า ทำBuilt in โต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูระยะใช้งาน ก็ยังเหลือระยะเดินกำลังพอดีๆ

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 50 เซนติเมตร ระยะพอวางชั้นวางทีวีได้ไม่ติดเตียง

มองไปที่ผนังฝั่งประตู

มาดูห้องนอนห้องถัดไปกันต่อค่ะ ห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ติดกันจะมีขนาดใหญ่กว่าหน่อยและมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 2 ชุด บนผนังฝั่งละชุด บ้านตัวอย่างวางเตียงคู่ขนาด 5 ฟุตมาให้

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 70 เซนติเมตร ทำ Built in ชั้นวางของและโต๊ะทำงานยาวเต็มความกว้างผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย

ข้างเตียงฝั่งติดประตูวางโต๊ะทำงานมาให้ดูระยะใช้งาน

ข้างเตียงอีกฝั่ง หรือผลักเตียงมาไว้ตรงกลางไม่ชิดผนังแบบในห้องตัวอย่างก็สามารถทำได้นะคะ เนื่องจากมีระยะพอ

มองไปทางผนังฝั่งติดประตู มีมุมที่เหมาะวางตู้เสื้อผ้าอยู่

ไปดูห้องน้ำกันชั้น 2 กันต่อค่ะ

ห้องน้ำชั้น 2 ลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ คือเป็นของ Victor จัดเข้ามุมมาแบบนี้ และมีทำธรณีกั้นแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานติดโคมไฟซาลาเปา

โถสุขภัณฑ์อยู่มุมติดประตู

ชุดฝักบัวมาพร้อมที่วางสบู่ แต่บ้านหลังนี้จะไม่มีเจาะผนังทำที่วางแชมพูครีมนวดมาให้ แนะนำให้ทำชั้นเข้ามุมเพิ่มนะคะ เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูจะเห็นว่ามีขนาดกำลังพอดีมือ

บ้านหลังที่ 2 ที่เราจะพาไปชมกันเป็นบ้าน TYPE A ที่เป็นบ้านเปล่า ขนาดที่ดิน : 18.5 ตร.ว., พื้นที่ใช้สอย : 110 ตร.ม. 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ที่จอดรถ

หน้าตาโดยรวมของตัวบ้านจะคล้ายๆกันค่ะ เน้นสีขาวครีม น้ำตาลอ่อน แต่งผนังบางส่วนด้วยระแนงเหล็กให้ตัวอาคารดูมีมิติมากขึ้น สังเกตเพดานชายคาชั้น 2 จะทำผิวไม้มาให้ รั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งทาสีดำแบบบานพับ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

บ้านแบบ Type A จะต่างกับ Type B ตรงที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า และมีที่จอดรถน้อยกว่า 1 คัน และห้องน้ำชั้น 2 ของแบบ Type A จะมีน้อยกว่า Type B อยู่ 1 ห้อง หน้ากว้างของตัวบ้านอยู่ที่ 5.7 ม.เท่ากับ Type B หลังแรกที่พาไปชมกัน แต่ความลึกของตัวบ้านจะมีน้อยกว่า

ชั้น 1 ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 1 คัน ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเว้นเอาไว้เป็นพื้นที่ทำสวน โดยจะเทพื้นทรายเอาไว้ให้ ทางเข้าบ้านมีอยู่ทางเดียวคือเข้าจากทางฝั่งที่เป็นสวนค่ะ

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเป็นส่วนห้องรับแขก-โซฟาดูทีวี จะวางอยู่ที่ด้านหน้าสุดของบ้าน, ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับ Pantry ด้านหลัง, ข้างๆ Pantry มีประตูเปิดออกไปที่ลานซักล้างหลังบ้านได้ โดยหลังบ้านจะเทพื้นปูนไว้ให้,

ห้องน้ำของชั้นล่าง ที่วางฟังก์ชั่นเอาไว้ให้ใช้อาบน้ำได้ด้วย ส่วนลานหลังบ้านถ้าต่อเติมเป็นครัวเพิ่มก็เหมาะค่ะ เพราะสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับตัวบ้านได้ดี

ชั้น 2 จะมี 1 ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องนอนเล็ก และ 1 ห้องน้ำค่ะ โดยจะใช้ห้องน้ำห้องเดียวนี้ร่วมกันทั้งสามห้องนอน โดยห้องนอนใหญ่จะวางอยู่ส่วนหน้าบ้าน และมีระเบียงส่วนตัวในห้องนอน พร้อมกับมีพื้นที่พอที่จะใส่ตู้เสื้อผ้าได้ใหญ่หน่อย อาจจะทำเป็นตู้รูปตัว L ก็พอทำได้ (แต่แนะนำให้หาตู้ที่เป็นบานเลื่อน เพื่อจะได้ไม่เสียระยะเปิดตู้นะคะ)

ที่จอดรถของบ้านเป็นพื้นคอนกรีตฉาบเรียบนะคะ ฝั่งขวามือจะยุบเข้าไปเป็นส่วนของที่จอดรถที่จอดได้ 1 คัน เพดานติดโคมซาลาเปามาให้

ด้านหน้าเฉลียงทางเข้าบ้านมีพื้นที่ว่างพอทำสวน ปลูกต้นไม้เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ภายในตัวบ้านได้ ทางเข้าบ้านมีเฉลียงยกระดับขึ้นมา ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาว ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง

เพราะบ้านนี้เป็นบ้านมุม จึงมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับทำสวนเพิ่มได้

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 ซ.ม.ฝ้าเพดานของจริงเป็นยิปซั่มฉาบเรียบสูง 2.8 ม. ส่วนผนังฉาบปูนเรียบทาสีและติดไฟซาลาเปาให้ทั้งหลัง

มองไปทางส่วนชั้นวางทีวีของจริงจะมาเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีแบบนี้นะคะ ติดบัวพื้นลายไม้มาให้ และมีเจาะช่องแสงที่ผนังมาให้เพิ่ม ถัดมาจะเป็นบันไดทางขึ้นไปชั้น 2, ห้องน้ำชั้น1

พื้นห้องเก็บของข้างบันไดเป็นพื้นคอนกรีต

เข้าไปดูในห้องน้ำชั้นล่างกันต่อ

พื้นห้องน้ำชั้น 1 ลดระดับลงไปจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 cm. จะมีส่วนอาบน้ำแต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ สุขภัณฑ์ห้องน้ำเป็นของ Victor

ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องเซรามิกจรดเพดาน ส่วนเพดานที่เราเห็นตัดเฉียงลงมาในส่วนโถสุขภัณฑ์นั้นเพราะว่าห้องน้ำอยู่ใต้คานบันไดนั่นเองค่ะ แต่เนื่องจากบ้านมีเพดานค่อนข้างสูงคือ 2.8 เมตร เลยไม่ทำให้เพดานส่วนลาดนั้นต่ำจนลุกนั่งลำบาก ผนังห้องน้ำมีตกแต่งกระเบื้องโมเสกมาให้ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

จะมีมุมส่วนครัวที่ยุบเข้าไป

จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปลานหลังบ้าน

ลานหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตฉาบเรียบ พื้นลานลดระดับลงจากพื้นครัวประมาณ 10 เซนติเมตร มีหลอดไฟติดไว้ให้เหนือประตูสำหรับตอนกลางคืน

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดเป็นบันไดตีทึบ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนบันไดเป็นไม้ยางพาราประสาน ที่โถงบันไดจะมีหน้าต่างมาให้ 1 บานเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าสู่โถงบันได

ที่ชานพักจะมีขั้นสามเหลี่ยม 2 ขั้น เวลาเดินต้องระวังสะดุดกันหน่อยนะคะ แต่ที่เป็นแบบนี้เพราะเขาต้องการจะลดพื้นที่ที่ต้องเสียไปให้กับบันได ไปเพิ่มให้กับพื้นที่ห้องแทน

พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต 8 มม. สีเข้ากับตัวบันได โถงบันไดชั้น 2 จะแจกไปที่ห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำชั้น 2 ที่อยู่ตรงกลางค่ะ เนื่องจากเพดานสูง 2.8 เมตร ซึ่งมันก็ส่งผลให้บ้านมีความรู้สึกโปร่ง และมีพื้นที่เก็บของแนวตั้งมากขึ้น

ไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ

ในห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงในตัวและทางเข้าไปห้องน้ำอยู่ เอาภาพมุมเตียงจากบ้านเปล่ามาให้ดูค่ะ จะเห็นว่าผนังฝั่งหัวเตียงมีหน้าต่างแบบบานเลื่อนคู่มาให้ 1 ชุด

มองไปทางฝั่งห้องน้ำและระเบียง

ประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงเป็นประตูแบบเปิดได้บานเดียว

พื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 10 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 เซนติเมตร ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีดำ

ห้องน้ำชั้น 2 ลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องน้ำ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ คือเป็นของ Victor

ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องเซรามิกจรดเพดาน เพดานติดโคมซาลาเปา ส่วนฝักบัวอาบน้ำมีเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ส่วนอาบน้ำเข้ามุมมาแบบนี้ ถ้าอยากทำฉากกั้นห้องกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งก็สามารถทำได้ค่ะ

ห้องน้ำมีประตูทางออก 2 ประตู คือออกไปที่โถงบันไดชั้น 2 และห้องนอนใหญ่

ไปดูส่วนห้องนอนเล็กกันต่อนะคะ ธรณีประตูห้องจะเป็นลามิเนตค่ะ

ในห้องนอนเล็กจะมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 1 ชุด ขนาดห้องฝั่งซ้ายมือนี้จะเล็กกว่าห้องขวามือค่ะ เหมาะจะวางเตียงเดี่ยว จะมีที่พอวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้ครบ

ไปดูห้องนอนเล็กห้องขวามือกันต่อค่ะ

ห้องนี้จะมีขนาดห้องใหญ่กว่าหน่อย แต่แทบไม่ได้ต่างกันกับห้องนอนเล็กอีกห้องค่ะ และมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 ชุด

ราคา (มี.ค.59)

• Type A1 แปลง D70 ที่ดิน 18.2 ตารางวา 109 ตารางเมตร ราคา 2.47 ล้านบาท
• Type A1 แปลง D11 ที่ดิน 26 ตารางวา 109 ตารางเมตร ราคา 2.99 ล้านบาท
• Type B แปลง C117 ที่ดิน 43.6 ตารางวา 130 ตารางเมตร ราคา 4.39 ล้านบาท
• Type B แปลง D34 ที่ดิน 46.6 ตารางวา 130 ตารางเมตร ราคา 4.49 ล้านบาท

• เงินจอง 15,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ตารางวาละ 75,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา/เดือน

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ :โครงการ Gusto ท่าน้ำนนท์-พระราม 5 เป็นโครงการที่อยู่ติดถนนบางศรีเมือง ซึ่งเป็นโซนชุมชนที่อยู่กันมานาน ห่างจากท่าน้ำนนท์ประมาร 500 เมตร ซึ่งเป็นท่าเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านอาหารมาก รอบๆโครงการเองก็มีร้านอาหาร ตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกข้างทางเยอะพอสมควร ห่างจากโครงการแค่ 60 เมตรก็จะมีร้านสะดวกซื้อ Family Mart ที่เปิด 24 ชั่วโมงพร้อมร้านอาหารข้างทางอีกหลายร้าน

ส่วนห้างที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น HomePro, The Crystal ราชพฤกษ์, The Walk ราชพฤกษ์ และ Home work ที่เกาะตัวกันอยู่บนถนนราชพฤกษ์ใกล้วงเวียนพระราม 5 ที่ค่อนข้างครบครันและสะดวก แล้วแต่ชอบว่าจะเดินห้างไหน

สำหรับคนชอบทำอาหาร นอกจากตลาดบางศรีเมือง และ ตลาดนัดศิริมงคล บนถนนบางศรีเมืองเองแล้ว ก็จะมี Makro นครอินทร์กับ Lotus นครอินทร์ อยู่บนถนนนครอินทร์ ขับรถไปทางสี่แยกบางศรีเมืองไปทางถนนสุขาภิบาล 1 ไปนครอินทร์ ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงก็ถือว่าสะดวกดีค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนขับรถ ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนบางศรีเมือง เป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง โดยที่สี่แยกบางศรีเมืองห่างจากโครงการไปประมาณ 200 เมตร จะมีถนนสุขาภิบาล 1 ตัดผ่าน สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนนครอินทร์ ที่วิ่งไปออกสะพานพระราม 5 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หรือวิ่งไปวงเวียนพระราม 5 ไปถนนราชพฤกษ์ได้

นอกจากนี้ถนนสุขาภิบาล 1 ยังเชื่อมต่อกับถนนนนทบุรี 1 ซึ่งเชื่อมต่อกับสะพานนนทบุรี 1 ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอันใหม่ที่สร้างเสร็จและเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในปีที่แล้ว (2558) ที่เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวกขึ้นนั่นเอง

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปกติถ้าจากโครงการเลย ออกมาถนนบางศรีเมือง จะมีรถแท็กซี่ กับรถสองแถววิ่งผ่านอยู่เรื่อยๆ ถ้าไม่โทรเรียกแท็กซี่ก็เดินออกมาโบกตรงหน้าซุ้มโครงการได้ ห่างไปประมาณ 500 เมตรที่ท่าน้ำนนท์ก็มีเรือข้ามฟากและท่าเรือด่วนเจ้าพระยา สามารถใช้เดินทางเข้าสู่จุดหลักต่างๆในกรุงเทพฯ อย่างพระราม 7, ปิ่นเกล้า, สี่พระยา, สาทร จนถึงราษฎร์บูรณะ

♦ บ้านและวัสดุ : หน้าตาโดยรวมของตัวบ้านจะเน้นโทนสีอ่อนขาวครีม มีดีเทลแต่งผนังบางส่วนด้วยผนังหินชั้นทำให้ดูหรูหราขึ้น พร้อมระแนงเหล็กตกแต่งผนังชั้น 2 และราวระเบียงเหล็กสีดำ สังเกตว่าใต้ชายคาบ้านที่หลังคาจะทำผิวไม้ด้วย

โดยรวมแล้วจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมาให้ครบทั้งห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ ที่อาจใช้เป็นห้องครัวได้ หรือจะต่อเติมห้องครัวเพิ่มที่ลานหลังบ้านก็ได้เช่นกัน ส่วนชั้น 2 ห้องนอนทั้ง 3 ห้องมีระยะพอสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์ และยังมีที่ทางให้ขยับได้อยู่ไม่อึดอัด

โดยบ้านที่ทางโครงการขาย จะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีและ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟซาลาเปาทั้งหลัง, เพดนสูง 2.8 เมตร ซึ่งถือว่าให้มาสูงทีเดียวค่ะ มีผลดีคือทำให้บ้านโปร่ง และมีพื้นที่เก็บของแนวตั้งได้เยอะ

ลานจอดรถเป็นลานคอนกรีต, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Victor ห้องน้ำไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ เรื่องการระบายอากาศก็เตรียมมาให้โอเค คือห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดมาให้

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มีสวนสาธารณะมาให้ ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่ลงต้นไม้ใหญ่ เล็ก ให้ความร่มรื่นค่อนข้างเยอะ ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ ทางเท้าปูหญ้าและวางแผ่นหินสำหรับเดินให้

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย : เข้า-ออกโครงการด้วย รั้วไม้กระดก + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับ รั้วรอบโครงการสูง 2 ม. และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1388 , 082-318-6777
WEBSITE : http://www.gusto.co.th/project/townHome?project=TR5&tab=1

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.336 รีวิว ทาวน์โฮม พลีโน่ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ PLENO TIWANON-CHAENG WATTANA

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ “Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ“ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นจาก AP ตั้งอยู่บนซอยพระแม่การุณย์ ถนนติวานนท์ เป็นโครงการที่รายล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ เป็นโครงการทาวน์โฮมที่ออกแบบบ้านสไตล์ Modern Classic ใช้สีเรียบไม่ฉูดฉาดแต่ให้ความสวยงามที่เรียบง่าย โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.99 ล้านบาท สำหรับรายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามกันต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ซอยพระแม่การุณย์ ถนนติวานนท์ ต.บางพูด จ.นนทบุรี

พิกัด 13.948145, 100.547783

โครงการ Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ในซอยพระแม่การุณย์ บนถนนติวานนท์ โดยเข้าไปในซอยเพียง 160 ม. เป็นย่านที่พักอาศัยและบนถนนติวานนท์นั้นมีสถานศึกษาทั้งมัธยม ประถมและอาชีวะ ดังนั้นทำให้โดยรอบมีร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งในอาณาคตจะมีจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง(บางซื่อ – รังสิต) ที่ถือว่าเป็นเส้นรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดค่ะ

เนื่องด้วยโดยรอบโครงการ Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ เป็นย่านที่พัก และมีสถานศึกษาหลายแห่ง จึงทำให้เส้นนั้นถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก หน้าโครงการคือโรงเรียนพระหฤทัย นนทบุรี ปากซอยมีทั้ง 7-11 ตรงปากซอยเดินมาจากโครงการเพียง 160 ม. และมีตลาดดวงแก้ว ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกมากมายก็ห่างเพียง 270 ม.เท่านั้นค่ะ หรือจะเป็น Mint Village คอมมูนิตี้มอลที่ใกล้ที่สุด แม้จะไม่ใหญ่โตนักแต่ก็มีร้านอาหารให้ฝากท้อง แต่ในนั้นก็จะมีพวกโรงเรียนกวดวิชาอย่าง Kumon ด้วยค่ะ

ความอุดมสมบูรร์จะเกาะอยู่ตลอดเส้นติวานนท์ ใกล้ๆโครงการที่สุดก็เห็นจะเป็นโลตัส ที่อยู่ตรงแยกสวนสมเด็จ เรื่อยมาก็จะมีร้านอาหาร ร้านบริการต่างๆทั้งซ่อมรถ ล้างรถ สำหรับห้างสรรพสินค้าก็สามารถไปเส้นแจ้งวัฒนะเพื่อไปยังเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 10 กม.ได้ค่ะ และที่ตั้งโครงการยังไม่ไกลจากอิมแพค เมืองทองธานี ดังนั้นเวลามีงาน นิทรรศการต่างๆก็ไปยังอิมแพคได้สะดวก

โครงการ Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ ที่ตั้งโครงการอยู่ใน จ.นนทบุรีอยู่ในซอยพระแม่การุณย์ ซึ่งเป็นซอยย่อยจากถนนติวานนท์ ซอยพระแม่การุณย์นั้นเชื่อมต่อระหว่างถ.ติวานนท์และถ.เลียบคลองประปา สำหรับถนนติวานนท์ เป็นถนนเส้นยาวเส้นหลักที่เชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย ทำให้เส้นนี้สามารถไปได้หลายทาง ทั้งรัตนาธิเบศน์ แจ้งวัฒนะ ชัยพฤกษ์ บางบัวทอง และรังสิต แต่ก็เป็นเส้นที่มีการจราจรคึกคักค่ะ เนื่องจากเป็นเส้นที่เชื่อมกับหลายสาย จึงมีคนวิ่งเส้นนี้เยอะ และยังเป็นเส้นที่มีสถานศึกษาอยู่เยอะ ดังนั้นช่วงเวลาเลิกเรียนรถก็จะติดหนักพอสมควร

สำหรับเส้นเลียบคลองประปก ก็เป็นถนนเส้นหลักที่คนย่านนนทบุรีใช้กัน เส้นนี้เป็นเส้นยาวเลียบไปตามคลองประปาจึงเชื่อมกับถนนหลายสาย จากโครงการก็เชื่อมต่อกับถนนสระประภา แจ้งวัฒนะ ซึ่งเชื่อมกับถนนกำแพงเพชรไปยังสนามบินดอนเมืองได้

เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนแจ้งวัฒนะ → เลี้ยวขวาตรงห้าแยกปากเกร็ด – ตรงไปตามถ.ติวานนท์ → ตรงไปแยกสวนสมเด็จ →ตรงไปประมาณ 1.2 กมให้กลับรถ → เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพระแม่การุณย์→ ตรงเข้าไปประมาณ 160 เมตรก็จะเจอพื้นที่โครงการ Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะแล้วค่ะ

วิ่งมาตามเส้นแจ้งวัฒนะ ผ่านเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

ตรงไปเรื่อยๆจะผ่านโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ และจะเห็นปั๊มบางจากทางขวามือ

ตรงมาเรื่อยๆผ่าน HomePro และ Big C ค่ะ

ตรงนี้ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อไปยังถนนติวานนท์ ถ้าตรงไปจะเป็นสะพานข้ามห้าแยกปากเกร็ด แล้วจะตรงไปยังสะพานพระราม 4 ข้ามไปยังถนนชัยพฤกษ์และราชพฤกษ์ค่ะ

เบี่ยงซ้ายเพื่อตรงไปยังห้าแยกปากเกร็ดค่ะ

เลี้ยวขวาตรงห้าแยกปากเกร็ดเพื่อเข้าถนนรัตนาธิเบศน์

ตรงไปตามถนนรัตนาธิเบศน์ ถนนเส้นนี้เป็น 4-6 เลนแต่เลนซ้ายสุดมักจะมีรถจอดเป็นระยะ ทำให้บางช่วงจราจรติดขัด ด้านขวาจะผ่านโรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี

ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลกรุงไทย

ตรงนี้ให้เบี่ยงขวาเพื่อเข้าเส้นที่จะตรงไปตามถนนรัตนาธิเบศน์ ถ้าไปด้านซ้ายจะวนไปยังถนนแจ้งวัฒนะค่ะ

ตรงไปเรื่อยๆผ่านโรงเรียนอัมพรไพศาล

เส้นนี้จะมีสถานศึกษาทั้งประถม มัธยม ด้านซ้ายคือโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมป์ช่างกล

ถึงแยกสวนสมเด็จให้ตรงไปค่ะ

ผ่านปั๊ม ปตท.ทางด้านขวามือแสดงว่าไม่ไกลจากโครงการแล้วค่ะ

ผ่านตลาดดวงแก้วซึ่งเป็นตลาดที่ใกล้ที่สุดของโครงการ และซอยเข้าโครงการจะอยู่ติดกับโรงเรียนพระหฤทัย นนทบุรีแต่เราต้องไปกลับรถค่ะ

จากโรงเรียนพระหฤทัย นนทบุรีตรงมาเรื่อยๆประมาณ 300 ม.จะมีจุดกลับรถ

เมื่อกลับรถมาจะผ่าน Mint Village อยู่ทางซ้ายมือ

เนื่องจากไม่มีป้ายบอกที่ตั้งโครงการตามถนน ทางเข้าจึงให้สังเกตุจากโรงเรียนพระหฤทัย นนทบุรีว่าจะอยู่ในซอยก่อนถึงโรงเรียนค่ะ

เลี้ยวเข้ามาเพียง 160 ม.ก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

รอบๆโครงการ

ทางเข้าโครงการ Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ จะเป็นซอยติวานนท์ – ปากเกร็ด 17 โดยตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่ติวานนท์ประมาณ 200 เมตร รอบโครงการๆ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นค่ะ จะมีทิศเหนือ คั่นด้วยที่ดินเปล่า ถัดไปจะเป็นคอนโดมิเนียมเอื้ออาทร ความสูง 5 ชั้น ส่วนทางทิศตะวันออก จะติดกับบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ความสูง 2 ชั้น

ส่วนรอบๆทางเข้าออกโครงการบนถนนติวานนท์จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างปั๊มน้ำมันและโรงพยาบาลกรุงไทย ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการจะมี Amway และโรงเรียนสวนกุหลาบ วิทยาลัยนนทบุรี ทำให้รอบๆในระยะเดิน ข้ามสะพานลอยไปฝั่งใกล้โรงเรียนจะพอมีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ประปรายค่ะ แต่หลักๆในโครงการจะมียูนิตร้านค้า 18 ยูนิต ใต้อาคารในโครงการเองอยู่ ซึ่งก็ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายให้กับคนในโครงการมากขึ้น

หน้าโครงการเป็นถนน 2 เลนไม่กว้างนัก ไม่มีไหล่ทางแต่มีฟุตบาทให้เดิน ตรงข้ามเป็นโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรีจะเห็นรัวตลอดแนว โดยมีทางเข้าโรงเรียน(ประตู 3 ) อยู่ทางซ้ายมือในภาพค่ะ ดังนั้นบ้านที่อยู่โซนด้านหน้าโครงการจะได้ยินเสียงประกาศต่างๆจากทางโรงเรียนค่ะ

ด้านขวาของโครงทางไปตรงปากซอยพระแม่การุณย์จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านซักรีดและบ้านพักอาศัย เดินไปปากซอยเล็กน้อยก็จะมี 7-11 ค่ะ

ด้านซ้ายของโครงการตรงไปเรื่อยๆจะเชื่อมกับถนนเลียบคลองประปา ส่วนใหญ่ด้านนี้จะเป็นบ้านพักอาศัย มีร้านค้าน้อยกว่าปากซอยพระแม่การุณย์ค่ะ

สถานที่สำคัญ
– ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน เมืองทองฯ
– ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน แจ้งวัฒนะ
– รร. อัมพรไพศาล 4.3 กม.
– รพ.กรุงไทย 6.3 กม.
– รร.พระหฤทัยนนทบุรี 10 ม.
– รร. สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี 6.4 กม.
– อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี 6.1 กม.
– บิ๊กซี เอ๊กซ์ตร้า แจ้งวัฒนะ 8.4 กม.
– โฮมโปร แจ้งวัฒนะ 8.4 กม.
– เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 10 กม.
– โลตัส แจ้งวัฒนะ 1.6 กม.
– เมเจอร์ แจ้งวัฒนะ 7.1 กม.
– ตลาดดวงแก้ว 270 ม.
– มิ้นท์วิลเลจ 350 กม.

ตัวโครงการ

ติดกับถนนจะมีป้ายโครงการชัดเจน สังเกตได้ง่ายไม่ว่าจะมาจากทางเลียบคลองประปาหรือจากปากซอยพระแม่การุณย์

ป้อมยามระบบความรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงและมีไม้กระดกพร้อม กล้องวงจรปิด 4 ตัวสำหรับถ่ายรูปรถที่เข้า-ออกโครงการ โดยแบ่งอย่างละ 2 ตัวตรงทางเข้าและทางออก มีจุดให้สแกนบัตรเพื่อเข้าไปภายในโครงการสำหรับลูกบ้าน ส่วนแขกก็จะต้องแลกบัตรค่ะ

ภายในโครงการ ถนนส่วนด้านหน้าจะมีฟุตบาทและต้นไม้ริมทางทำให้โครงการดูร่มรื่น

ด้านขวามมือจากประตูทางเข้าโครงการจะเป็นสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างนะคะ

ถนนหลักภายในโครงกานยังพอมีต้นไม้ตลอดแนวถนน

แต่ถนนในซอยจะไม่มีต้นไม้และหน้าบ้านแต่ละหลังไม่ได้มีสวนให้เพราะเป็นพื้นที่จอดรถ

ระยะห่างด้านหลังบ้านแต่ละหลังค่ะมีระยะห่างให้พอสมควร ความร้อนจากคอมเพลสเซอร์แอร์จะไม่ได้ส่งผลกระทบ จากในภาพจะเห็นว่าบ้านหลังนึงได้ต่อเติมส่วนด้านหลังให้เป็นครัวแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ทาวน์โฮมลักษณะนี้มักจะมีการต่อเติมครัวไทยด้านหลังบ้านแบบนี้ค่ะ

ช่วงกลางโครงการจะมีส่วนกลางซึ่งมีอาคารนิติบุคคล สระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางให้ค่ะ

ส่วนกลางจะไม่มีคลับเฮ้าส์ให้ โดยอาคารที่เห็นนี้คืออาคารสำนักงาน ส่วนสระจะอยู่ทางซ้ายมือในภาพ

อีกมุมของสระว่ายน้ำจะเห็นว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าสายตา และไม่ได้มีอะไรบังระหว่างตัวสระกับสวนที่อยู่ติดกับถนน ทำให้ตรงนี้ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่เพราะถ้าใครขับรถผ่านไปมาก็จะเห็นเราว่ายน้ำหรือนอนอาบแดดอยู่นั่นเองค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาด 4×11 ม. ลึก 1.2 ม. เหมาะสำหรับว่ายพักผ่อน แช่ตัวมากกว่าว่ายเพื่อออกกำลังกาย

มุมนั่งเล่นริมสระค่ะ

ติดกับอาคารส่วนกลางก็จะเป็นสวน ส่วนใหญ่จะเป็นหญ้าและไม้พุ่มค่ะ มีทางเดินให้เดินเล่นได้โดยรอบ

อีกมุมของสวนส่วนกลางค่ะ

แบบบ้าน

ห้องในโครงการมี 2 แบบค่ะ คือ
– Lucky Bird: 20 sq.w. พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– Love Bird: 18 sq.w. พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

Lucky Bird: เป็นทาวน์โฮมที่มีพื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร โดยด้านหน้าจะเป็นที่จอดรถทั้งหมดค่ะ ไม่มีพื้นที่สวน โดยส่วนของสวนนั้นจะไปอยู่หลังบ้านแทน ที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คันถ้าเป็ฯคันเล็ก แต่ถ้าคันใหญ่จะจอดได้คันเดียวนะคะเพราะต้องเผื่อที่สำหรับเข้า-ออกบ้านด้วย

พื้นที่ภายในบ้านจัดเป็นสัดส่วนและฟังก์ชั่นครบ โดยชั้นล่างจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ถัดไปเป็นส่วนทานอาหารและที่เตรียมอาหาร ส่วนใครจะทำครัวไทยอาจต้องต่อเติมสำหรับบ้านที่ทำอาหารทานเองจริงจัง ติดกันนั้นจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง

ชั้นบนเป็นห้องนอนทั้งหมดค่ะ โดยจะมี 1 ห้องน้ำใช้ร่วมกัน มีห้องนอนเล็ก ห้องนอนกลาง และห้องนอนใหญ่ โดยห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงส่วนตัวและพื้นที่กว้างพอจะทำ walk in closet ได้

ตัวบ้านภายนอกใช้โทนสีเรียบง่ายทำให้ดูเป็นระเบียบ ผ่านไปนานก็ยังดูไม่ตกสมัย โดยใช้เป็นสีขาว เทาเข้าและเท่าอ่อน จะเห็นว่าด้านหน้าบ้านจะมีประตูกระจกบานใหญ่ และหน้าต่างกระจกเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าตัวบ้านเพื่อความสว่างและโปร่ง

บ้านจริงที่ได้ค่ะ รั้วด้านหน้าเป็นอลูมิเนียมสีดำ พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดเรียบ ตรงรั้วเป็นแบบบานพับ มีกล่องจดหมายติดตั้งให้ที่รั้ว

ด้านหน้าบ้านจะมีเฉลียงหน้าบ้าน ยกระดับจากพื้นที่จอดรถ

บ้านจริงเฉลียงเป็นคอนกรีตขัดเรียบ ไฟหน้าบ้านเป็นไฟโคมซาลาเปา

พื้นในตัวบ้านจะยกระดับจากพื้นเฉลียงเล็กน้อย

ตัวจับประตูและบานกรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง

พื้นในบ้านปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. เปิดมาภายในจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ที่เห็นไปถึงส่วนทานอาหารและหลังบ้าน จึงได้แสงธรรมชาติจากตรงประตูหลังบ้านด้วยค่ะ

บ้านจริงที่ได้ ผนังจะเป็นทาสีขาว ไฟเป็นโคมซาลาเปา

มุมวางโซฟาสามารถวางโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่งได้ค่ะ ด้านข้างสามารถวางตู้โชว์เพื่อกั้นส่วนทานอาหารกับนั่งเล่นให้แยกเป็นสัดส่วนแบบนี้ได้

ด้านตรงข้ามจะเป็นมุมวางทีวีและบันไดที่จะขึ้นไปยังชั้นบน

บ้านจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้ค่ะ จะเห็นว่าตรงใต้บันไดจะเป็นห้องเก็บของ

ถ่ายมองย้อนกลับไปยังหน้าบ้าน จะเห็นได้ชัดเลยว่าประตูกระจกบานใหญ่มากจึงทำให้บ้านดูโปร่งเพราะได้แสงจากธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านนั่นเองค่ะ อีกทั้งในภาพนี้จะเห็นว่าโซฟากับชั้นวางทีวีมีระยะห่างกันมากพอสมควร จึงทำให้สามารถวางโซฟาตัว L และยังมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สบาย

บ้านจริงที่ได้จากมุมที่มองย้อนกลับไปยังประตูหน้าบ้านค่ะ

ติดกันนั้นจะเป็นส่วนของที่ทานอาหาร มุมนี้เราสามารถแยกส่วนจากห้องนั่งเล่นด้วยการกั้นผนัง หรือวางตู้ที่โปร่งหน่อยซึ่งจะดีกว่าเพราะไม่ทำให้ห้องดูแคบลง

ส่วนทานอาหารสามารถวางโต๊ะสำหรับ 4-5 ที่นั่งได้ค่ะ ตรงนี้จะอยู่ติดกับประตูระเบียงที่เป็นกระจก โดยประตูกรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเป็นเขียวตัดแสงค่ะ

พื้นภายนอกจะลดระดับลงไปจากพื้นบ้าน

บ้านจริงที่ได้พื้นภายนอกจะเป็นส่วนซักล้างซึ่งปูคอนกรีตไว้ ถ้าบ้านไหนที่มีพื้นที่ดินมากหน่อยก็สามารถมีสวนหลังบ้านแบบบ้านหลังนี้ได้ค่ะ

อีกด้านของมุมทานอาหารจะเป็นส่วนของครัว และห้องน้ำชั้นล่าง

บ้านจริงที่ได้จะไม่มีเคาน์เตอร์ให้นะคะ แต่จะมีการเดินปลั๊กและท่อน้ำให้เพื่อที่จะสามารถติดตั้งเคาน์เตอร์ทำครัวได้

มุมครัว ครัวในบ้านส่วนใหญ่เหมาะสำหรับทำอาหารแบบเบาๆค่ะเพราะไม่งั้นกลิ่นจะฟุ้งไปทั้งบ้าน เคาน์เตอร์มุมนี้สามารถทำเป็นตัว L แบบนี้ได้ มีที่ล้างจาน พื้นที่วางเตา และยังเหลือพื้นที่สำหรับหั่นผักเตรียมอาหารให้ใช้ได้สะดวก

เหนือเคาน์เตอร์จะมีหน้าต่างกระจกบานเล็กๆเพื่อให้มุมนี้ได้แสงธรรมชาติเข้ามา

ติดกันนั้นจะเป็นส่วนของห้องน้ำค่ะ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง 30×30 ซม. ลดระดับลงไปเล็กน้อยจากพื้นบ้าน

ภายในมีส่วนอาบน้ำให้ แต่เนื่องจากพื้นที่เล็กจึงไม่เหมาะที่จะทำ shower box ดังนั้นเวลาอาบพื้นห้องและโถสุขภัณฑ์ก็จะเปียกไปด้วยค่ะ แต่ที่โครงการจัดให้มีส่วนอาบน้ำให้ห้องนี้ เนื่องจากว่าชั้นบนมีห้องน้ำห้องเดียว เผื่อวันไหนลูกบ้านรีบๆแล้วต้องออกบ้านพร้อมกัน ก็จะได้ไม่ต้องแย่งห้องอาบน้ำกันค่ะ

บ้านจริงที่ได้สุขภัณฑ์จะต่างจากบ้านตัวอย่างนะคะ นี่คือหน้าตาห้องน้ำที่บ้านจริงจะได้ กระเบื้องผนังและพื้นจะเหมือนบ้านตัวอย่าง ต่างตรงสุขภัณฑ์เท่านั้นค่ะ

โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ American Standard ค่ะ โดยอ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย เหนืออ่างมีกระจกบานยาวติดตั้งให้

ฝักบัวแบบ Hand Shower ของ Bathroom Design มีชั้นวางของให้ด้วยค่ะ

ต่อไปก็ขึ้นไปดูชั้นบนกันนะคะ ตรงบันไดจะเห็นว่ามีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้วย เนื่องจากตรงนี้จะมีหน้าต่างบาน Fix ติดตั้งอยู่

ตัวบันไดลูกนอนเป็นไม้ประสานรูปสีน้ำตาลอ่อน มีราวจับให้ตลอดแนว ทำให้เดินได้สะดวกค่ะ

บันไดเป็นตัว L นะคะ เดินขึ้นลงสะดวกเพราะมีราวจับตลอดแนว และชานพักเป็นสี่เหลี่ยม

ขึ้นมาชั้นบน จะเห็นว่ามีทั้งหมด 4 ห้องด้วยกัน ด้านซ้ายสุดคือห้องนอนใหญ่ ถัดมาคือห้องน้ำ ติดกันคือห้องนอนกลาง และขวาสุดคือห้องนอนเล็กค่ะ

พื้นชั้นนี้จะปูด้วยลามิเนตโทนสีน้ำตาลอ่อนหนา 8 มม. ตรงโถงบันไดมีพื้นที่เล็กน้อย สามารถวางชั้นวางของได้ค่ะ

ห้องนอนเล็กจะอยู่ติดกับบันได

ภายในห้องนอนเล็กค่ะ ขนาดพื้นที่เหมาะสำหรับห้องนอนเด็กวางเตียง 3.5ฟุต และจะเหลือพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าเล็กๆได้ค่ะ

ห้องนอนจริงที่ได้ ภายในจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมสีขาว

อีกมุมของห้องค่ะ

ติดกันนั้นจะเป็นห้องนอนกลาง พื้นห้องตรงประตูจะมีตัวจบเป็นลามิเนตสามารถเห็นจากในภาพนี้ได้ค่ะ

ภายในห้องนอนกลาง ห้องนี้พื้นที่จะมากกว่าห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงขนาด 3.5ฟุตและยังมีพื้นที่วางโต๊ะอ่านหนังสือและตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ

หน้าตาห้องจริงที่จะได้ค่ะ พื้นเป็นลามิเนตแบบเดียวกับโถงบันได มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ไฟเป็นโคมซาลาเปา

ตำแหน่งหน้าต่างจะอยู่ข้างเตียง และเป็นหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ห้องได้แสงธรรมชาติพอเพียงและทำให้ห้องดูโปร่งค่ะ

อีกมุมของห้องจะเห็นระยะห่างจากตู้เสื้อผ้าและประตู ตรงผนังจะมีพื้นที่ว่างสามารถตกแต่งห้องหรือทำเป็นมุมแขวนกระเป๋าได้ค่ะ

ติดกันกับห้องนอนกลางเป็นห้องน้ำ ซึ่งชั้นนี้จะมีเพียง 1 ห้องนะคะดังนั้นทุกห้องจะใช้ร่วมกัน

พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นโถงบันได ปูด้วยกระเบื้อง 30×30ซม. สุขภัณฑ์ในบ้านตัวอย่างจะเป็นของตกแต่งเท่านั้นนะคะ คือบ้านจริงจะเป็นอีกยี่ห้อและอีกรุ่นค่ะ

ขอยกรูปห้องน้ำจริงที่จะได้จากห้องน้ำชั้นล่างมานะคะ โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ American Standard ค่ะ โดยอ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย เหนืออ่างมีกระจกบานยาวติดตั้งให้

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปชมคือห้องนอนใหญ่นะคะ หรือ Master bedroom

ภายในห้องนอนใหญ่ ห้องนี้จะสว่างเพราะมีทั้งหน้าต่างกระจกและมีระเบียงส่วนตัวที่ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกค่ะ อีกทั้งยังเป็นห้องที่อยู่ส่วนหน้าบ้านทำให้ได้วิวหน้าบ้านด้วยค่ะ

ห้องจริงที่ได้จะเห็นว่ามีหน้าต่างกระจก และประตูกระจกบานใหญ่ ห้องจึงดูสว่างมาก

มุมที่จะวางเตียง สามารถวางเตียงขนาด 5-6ฟุตได้ พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงและริมผนังสามารถวางเป็นโต๊ะทำงานยาวๆแบบนี้ได้ค่ะ

มุมห้องจริงที่จะได้ โคมไฟเป็นโคมซาลาเปา

ปลายเตียงจะมีพื้นที่ที่สามารถทำเป็น walk in closet ได้หรือจะกั้นส่วนแต่งตัวกับที่นอนด้วยชั้นวางทีวี ห้องนี้สามารถวางตู้เสื้อผ้าเป็นตัว L ได้ทำให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ สาวๆน่าจะชอบค่ะ

พื้นที่ห้องจริงที่จะได้ ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียงโดยประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน

ประตูระเบียง ธรณีประตูจะยกสูงเล็กน้อยจากพื้นห้องค่ะ

พื้นที่ระเบียง ไม่กว้างนัก พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. ราวกันตกเป็นอลูมิเนียมสีดำ

Love Bird: เป็นทาวน์โฮมที่มีพื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 5.5 หลังนี้ พื้นที่ด้านหน้าบ้านจะเป็นส่วนของที่จอดรถ สามารถจอดคันเล็กได้ 2 คัน หลังนี้จะต่างจากหลังแรกคือประตูหน้าบ้านจะไม่ใช่ประตูกระจกบานเลื่อน แต่เป็นประตูบานเดี่ยวที่เข้ามาจากด้านข้าง โดยส่วนด้านหน้าที่เป็นกระจกนั้นเป็นหน้าต่างกระจกค่ะ

พื้นที่ชั้นล่างแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น หลังนี้ส่วนทานอาหารจะอยู่ระหว่างส่วนของครัวและส่วนนั่งเล่น คือไม่ได้แยกเป็นสัดส่วนเท่าแบบแรก สำหรับชั้นบนจะเป็นห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง

หน้าตาของบ้านแบบ Love Bird ค่ะ จะเห็นว่าด้านหน้าที่เป็นกระจกนั้นเป็นส่วนของหน้าต่าง ไม่สามารถใช้เป็นทางเข้า – ออกได้ ตัวบ้านใช้ทีเรียบโทน เทาขาว

บ้านจริงที่ได้ ตรงรั้วเป็นแบบบานพับวัสดุคืออลูมิเนียมสีดำ พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดเรียบ มีกล่องจดหมายติดตั้งให้ที่รั้วค่ะ

ประตูเข้าบ้านจะอยู่ด้านข้าง ส่วนประตูเล็กที่เห็นเป็นประตูห้องเก็บของค่ะ

ห้องเก็บของภายใน พื้นจะเป็นคอนกรีตขัดเรียบ ห้องนี้เป็นส่วนของใต้บันไดค่ะ ดังนั้นฝ้าเพดานของห้องเก็บของจะไม่สูงนัก ขวามือคือประตูบ้านตัวจับเป็นลูกบิด ประตูเป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF

หน้าตาบ้านจริงที่ได้ค่ะ แต่ตรงพื้นเฉลียงหน้าบ้านจะไม่ได้ปูด้วยไม้แบบนี้ แต่จะเป็นคอนกรีตขัดเรียบ

เมื่อเปิดเข้าไปจะเห็นภายในบ้านของชั้นนี้แทบทั้งหมดค่ะ ส่วนที่เปิดมาเจอคือห้องนั่งเล่น

มุมที่มองกลับไปยังหน้าบ้าน จะเห็นว่ามุมนี้ถ้าเป็นบ้านมุมก็จะได้แสงสว่างจากธรรมชาติเพราะมีหน้าต่างกระจก 2 จุดคือเหนือโซฟาและตรงด้านหน้าบ้าน ระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีมีระยะห่างพอสมควร สามารถวางโซฟาตัว L ได้หรือจะวางโต๊ะกาแฟด้านหน้าก็มีพื้นที่เหลือและสามารถเดินผ่านได้

บ้านจริงที่จะได้ค่ะ

โซฟาสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่กว่านี้ได้โดยวางชิดมุมด้านขวาเพราะถ้าจะวางตัวใหญ่ตรงกลางแบบนี้จะทำให้ไปเบียดพื้นที่วางโต๊ะอาหารค่ะ

มุมตรงข้ามโซฟา จะเป็นที่วางทีวีซึ่งพื้นที่ตรงนี้สามารถวางทีวีขนาดใหญ่กว่านี้ได้เพียงแต่จะไม่มีพื้นที่เหลือให้วางของตกแต่งข้างๆทีวีค่ะ ด้านซ้ายคือประตูทางเข้าบ้าน ส่วนด้านขวาคือบันไดที่จะขึ้นไปชั้นบน

บ้านจริงที่ได้ค่ะ ผนังจะฉาบเรียบและทาสีขาวให้นะคะ

ข้างโซฟาจะเป็นส่วนของครัวและโต๊ะทานอาหาร โดยครัวจะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำและใกล้กับประตูทางออกไปหลังบ้าน

จากภาพจะเห็นว่าโต๊ะอาหารจะอยู่ระหว่างโซฟาและครัว พื้นที่จะไม่เยอะนักดังนั้นเหมาะสำหรับวางโต๊ะเล็กๆ 2-3 ที่นั่งค่ะ

บ้านจริงที่ได้ส่วนครัวจะไม่มีเคาน์เตอร์ให้นะคะ แต่ทางโครงการจะเตรียมเดินสายไฟ ปลั๊ก และท่อน้ำให้เพื่อการใช้งาน

มุมครัวจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเล็กๆให้เหนือเคาน์เตอร์เพื่อที่แสงจะได้เข้ามาในส่วนนี้ ขนาดเคาน์เตอร์สามารถทำเป็นตัว L แบบนี้ได้นะคะ ก็จะทำให้มีพื้นที่ในการเตรียมและทำอาหารมากขึ้น

ห้องน้ำชั้นล่างจะมีส่วนอาบน้ำให้แต่ไม่มี shower box ดังนั้นจึงไม่สามารถแยกส่วนเปียกและแห้งได้เพราะเวลาอาบน้ำ น้ำก็จะกระจายตามพื้นห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำจริงที่ได้โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ American Standard ค่ะ โดยอ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย เหนืออ่างมีกระจกบานยาวติดตั้งให้

ต่อไปเราก็ขึ้นไปดูชั้นบนกันนะคะ พื้นลูกนอนเป็นไม้ประสาน โทนสีน้ำตาลอ่อน

บันไดเป็นตัว U นะคะ ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมและมีราวจับให้ตลอดแนว ทำให้สะดวกต่อการเดินขึ้น – ลงบันได

ชั้นบนจะมีทั้งหมด 3 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำค่ะ พื้นชั้นนี้จะปูด้วยลามิเนตโทนสีน้ำตาลอ่อน

เมื่อขึ้นมาห้องที่อยู่ทางซ้ายมือของบันไดจะเป็นห้องนอนเล็ก

ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5ฟุตได้ โดยผนังด้านนึงจะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง

อีกมุมจะมีที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าค่ะ ห้องนี้ขนาดไม่กว้างนักจึงไม่มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงาน

ห้องจริงที่ได้ค่ะ ผนังภายในฉาบเรียบทาสีขาว พื้นเป็นลามิเนตโทนสีเดียวกับบ้านตัวอย่าง หน้าต่างเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว

ติดกันนั้นจะเป็นห้องนอนกลาง ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย สังเกตนะคะว่าพื้นภายในจะเป็นลามิเนตที่ปูต่อเนื่องมาจากตรงโถงทางเดินเลย

ภายในห้องค่ะ พื้นที่ของห้องสามารถวางเตียงขนาด 3.5ฟุต และมีพื้นที่เหลือวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานเล็กๆได้

ห้องจริงที่ได้ ก็จะมีหน้าต่างกระจกเช่นเดียวกัน ห้องนี้จึงดูสว่างและโปร่ง

หรือถ้าจะทำเป็นห้องพักผ่อน ห้องดูหนังก็สามารถวางโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่งได้

โดยฝั่งตรงข้ามก็สามารถวางทีวีและชั้นวางของได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้นนี้ตรงส่วนอาบน้ำจะมีขอบปูนเพื่อกั้นส่วนเปียกและแห้ง แต่การกั้นแบบนี้อาจกั้นได้ไม่มากนักเพราะเวลาอาบอาจมีน้ำกระเด็นออกมาแน่นอนค่ะ ส่วนใครคิดว่าจะติดตั้ง shower box พื้นที่อาจจะเล็กไปแล้วทำให้อาบน้ำอึดอัดได้ค่ะ

ส่วนห้องน้ำจริงที่ได้จะต่างจากบ้านตัวอย่างนะคะ บ้านจริงสุขภัณฑ์จะแบบเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างโดยโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ American Standard ค่ะ โดยอ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อย เหนืออ่างมีกระจกบานยาวติดตั้งให้

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูค่ะ นั่นก็คือห้องนอนใหญ่หรือ Master bedroom นั่นเองค่ะ ห้องนี้จะแบ่งเป็นสัดส่วนคือมีส่วนเตียงนอนและมีส่วนที่วางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง

ภายในห้องจะสว่างเพราะเป็นห้องที่อยู่ส่วนด้านหน้าบ้าน จึงได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ โดยมีหน้าต่างบานเลื่อน 1 บาน และบาน fix อีกสามบาน ด้านซ้ายที่เห็นก็จะเป็นประตูระเบียง ซึ่งก็เป็นกระจกเหมือนกันค่ะ

ห้องจริงที่ได้ ยิ่งเป็นผนังสีขาวก็จะทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้นมาก

ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้โดยมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง

มุมวางเตียงในห้องจริงที่ได้ค่ะ ไฟเป็นโคมซาลาเปา

อีกมุมของห้องค่ะ

ปลายเตียงจะเป็นส่วนแต่งตัว สามารถทำตู้ใบใหญ่และมีโต๊ะเครื่องแป้งได้ หรือจะทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ

บ้านจริงที่ได้ค่ะ

บ้านหลังมุมจะมีหน้าต่างกระจกเล็กๆตรงข้างโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว พื้นธรณีจะยกขึ้นมาสูงกว่าห้องนอนและพื้นด้านนอก ดังนั้นเวลาเดินข้ามก็ระวังสะดุดนะคะ

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 30×30 ค่ะ

ราคา (ก.พ.59)

– Lucky Bird: 29.30 sq.w. พื้นที่ใช้สอย 124 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น3.69 ล้านบาท
– Love Bird: 24.90 sq.w. พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท

จอง 10,000 บาท, ทำสัญญา 20,000 บาท

ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.วา/เดือน (เก็บล่วงหน้า 2 ปี)

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัย อยู่ในซอยพระแม่การุณย์ บนถนนติวานนท์ เข้าไปจากปากซอยประมาณ 160 ม. หน้าปากซอยมีร้านค้า ตลาด และโรงเรียนพระหฤทัย นนทบุรี ดังนั้นตัวบ้านในโครงการที่จะได้ยินเสียงตามสายของโรงเรียนคือช่วงบ้านที่อยู่โซนด้านหน้า จะได้ยินเสียงประกาศช่วงเช้า เที่ยง และเย็น ส่วนบ้านที่อยู่ไกลออกไปจะไม่ค่อยได้ยินค่ะ ดังนั้นใครสนใจหลังไหนและเป็นคนที่อยู่บ้านตลอดแนะนำให้ไปช่วงเปิดเทอมเพื่อดูว่ามีเสียงรบกวนหรือไม่ แต่ถ้าใครออกไปทำงานแล้วกลับเย็นๆค่ำๆอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องตรงนี้เพราะเวลาไม่ตรงกับการประกาศของโรงเรียน ส่วนตอนเย็นก็ไม่มีเสียงรบกวนเพราะข้างๆโครงการเป็นพื้นที่ดินเปล่า เป็นสวนของชาวบ้าน

ความอุดมสมบูรณ์ – ที่ตั้งโครงการเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาและเป็นย่านที่พักอาศัย ดังนั้นเรื่องอาหารการกินไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ หน้าโครงการมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านน้ำปั่น ร้านค้าโชห่วย หน้าปากซอยเดินมาในระยะไม่ถึง 200 ม.ก็จะเจอกับ 7-11 และตลาดดวงแก้ว ซึ่งก็มีร้านอาหารให้ได้ฝากท้อง หรือจะไปตรง Mint Village ก็จะมี KFC นะคะ

หรือจะไปตรงห้าแยกปากเกร็ด ที่ห้าแยกปากเกร็ดจะมีห้างทั้ง Homepro, Big C และ Major Hollywood ซึ่งตอนเย็นๆ ตรงหน้าเมเจอร์ก็จะมีตลาดนัดด้วยค่ะ สำหรับภายในก็มีโรงหนังและร้านอาหารอีกเพียบ หรือถ้าจะไปห้างใหญ่ๆก็จะเป็น Central แจ้งวัฒนะห่างจากโครงการประมาณ 10 กม. เรียกได้ว่าทำเลที่ตั้งอุดมสมบูรณ์มากทีเดียวค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกต่อการใช้รถเนื่องจากเชื่อมต่อได้หลายสาย แต่จะมีช่วงเวลาที่รถติดเพราะอยู่เส้นที่มีสถานศึกษาอยู่ตลอดแนว ถ้าไม่นับเรื่องรถติดทำเลที่ตั้งก็สะดวกทั้งไปทางรังสิต บางบัวทอง หรือจะเข้าเมืองก็ได้ค่ะเพราะเส้นติวานนท์นั้นเป็นถนนเส้นยาวที่เชื่อมกับถนนหลักๆอย่างถนนแจ้งวัฒนะ ถนนชัยพฤกษ์ และซอยพระแม่การุณย์ก็เชื่อมกับถนนคลองประปา เส้นนั้นก็เป็นถนนเส้นยาวค่ะสามารถไปยังถนนกำแพงเพชร ดอนเมือง แล้วมุ่งหน้าเข้าเมืองได้

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เรื่องการขนส่งสาธารณะหน้าปากซอยพระแม่การุณย์จะมีป้ายรถเมล์อยู่ค่ะ รถเมล์ก็มีเป็นระยะไม่ขาดสายส่วนหรือจะใช้บริการรถ 2 แถวก็มีให้เรียกใช้บริการ อีกทางเลือกหนึ่งคือ Taxi ก็มีให้เรียกเป็นระยะๆ ดังนั้นการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกค่ะแต่ก็จะมีรถติดบ้าง

การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นซึ่งมี 2 แบบให้เลือก สำหรับบ้านหลังเล็กหรือ Love Bird จะเป็นบ้านที่มีประตูทางเข้าดูด้านข้าง ส่วนด้านหน้าที่ติดกับที่จอดรถจะเป็นกระจก หลังนั้นการออกแบบพื้นที่ใช้สอยจะเหมาะสำหรับครอบครัวเล็กคือประมาณ 2-3 คนค่ะเพราะพื้นที่ทานอาหารจะต้องแบ่งระหว่างส่วนครัวและห้องนั่งเล่น หรือถ้ามีพื้นที่หลังบ้านเยอะ ก็ต่อเติมส่วนครัวได้ ก็จะสะดวกขึ้นถ้ามีสมาชิกในบ้านเยอะ ส่วนบ้านหลังใหญ่หรือ Lucky Bird บ้านที่มีประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกบานใหญ่ หลังนี้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้ลงตัวมากกว่า แบ่งเป็นสัดส่วน ถ้าไม่ทำอาหารบ่อยๆก็ไม่ต้องต่อเติมครัว แต่บางบ้านอาจต่อเติมเพื่อทำครัวไทยหลังบ้านได้ค่ะ

สำหรับวัสดุที่ให้มาก็ถือว่ามาตรฐาน พื้นที่จอดรถเป็นคอนกรีตขัดเรียบ พื้นชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60×60 ซม. ชั้นบนเป็นลามิเนต กรอบหน้าต่างและประตูเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ไฟภายในก็เป็นแบบโคมซาลาเปา ผนังฉาบเรียบทาสีขาว สุขภัณฑ์ที่ให้ภายในห้องน้ำก็เป็น American Standard ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก – มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มี CCTV อยู่ตรงหน้าโครงการทั้งหมด 4 ตัวคือตรงทางเข้า 2 ตัวและทางออก 2 ตัว ส่วนของ Club House ก็เป็นสำนักงานนิติบุคคลและสระว่ายน้ำ ขนาด 4×11 ม. เป็นระบบเกลือให้ใช้บริการ และโดยรอบจะมีสวนส่วนกลางของโครงการให้ค่ะ ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับลูกบ้านจำนวน 214 หลัง

คะแนน

**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623

สำนักงานขาย Tel : 02-408-5999

Website : www.apthai.com

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

นครทอง โคโลนี่ ศรีนครินทร์ Nakornthong Colony บ้านแฝด และทาวน์โฮมสไตล์ Modern Colony เริ่ม 1.89 ล้านบาท

นครทอง โคโลนี่ ศรีนครินทร์  Modern Colony แรงบันดาลใจอันน่าหลงไหล…สะท้อนรสนิยมการอยู่อาศัย เพิ่มความสมบุรณ์แบบด้วย สวนสไตล์อังกฤษ เพิ่มฟังก์ชั่น บ้านที่รู้ใจ ด้วยการขยายพื้นที่ให้กว้าง โปร่ง สบาย อย่าง ต่อเนื่อง และใช้วัสดุพรีเมี่ยมมากกว่าใคร เริ่ม 1.89 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยทรัพย์พัฒนา หมู่ 4 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

:: HOUSE TYPE ::

แบบบ้าน ชาร์มมิ่ง : บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 7 เมตร

เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 37.5 ตร.วา.  พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้าน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

แบบบ้าน โมดิช : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร

เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 22.5 ตร.วา.  พื้นที่ใช้สอย 112 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้าน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Call-Center : 02-388-0548-9

Tel : 087-678-9296, 097-006-4994

Website : http://www.nakornthong.co.th/

Lio Bliss ไลโอ บลิส กาญจนาภิเษก-ชัยพฤกษ์ ทาวน์โฮมใหม่ ใกล้รถไฟฟ้า เริ่ม 1 ล้านต้น*

บริษัท ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดลงทะเบียนโครงการ ไลโอ บลิส กาญจนาภิเษก-ชัยพฤกษ์  ทาวน์โฮมใหม่ ใกล้รถไฟฟ้า และเซ็นทรัลเวสต์เกต ในราคาสุดช็อค สะเทือนวงการ เริ่มต้น 1 ล้านกว่าบาท*

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้แล้วที่นี่

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที

Tel : 1778

Website : http://www.lalinproperty.com/

EP.339 รีวิว พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ Pruksa Ville 73 Pattanakarn

สวัสดีผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ (Pruksa Ville Pattanakarn) เป็นอีกหนึ่งโครงการน้องใหม่ใน “พฤกษา Avenue” ซึ่งมีโครงการรุ่นพี่เกิดขึ้นแล้วหลายโครงการค่ะ ตัวอเวนิวอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 โดยโครงการเป็นทาวน์โฮมและบ้านแฝด 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 18 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 2.799 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

พิกัด : 13.719268, 100.632578

แผนที่จากทางโครงการดูเข้าใจง่ายดีค่ะ

โครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ ตั้งอยู่ในพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) ซึ่งเป็นที่ดินขนาดใหญ่ที่รวมโครงการบ้านและทาวน์โฮมของแบรนด์พฤกษาไว้หลายโครงการ ปัจจุบันนี้ก็โครงการในพฤกษา อเวนิวก็มีอยู่ประมาณ 12 โครงการแล้วค่ะ โดยตัวพฤกษา อเวนิวนี้จะมีที่ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 เข้าซอยมาจากถนนพัฒนาการประมาณ 1.2 กิโลเมตร ส่วนตัวโครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ จะเข้ามาจากปากซอยพัฒนาการ 38 ประมาณ 2.4 กิโลเมตรค่ะ

ถนนพัฒนาการเป็นถนน 6 เลน เส้นสั้นๆ ที่มีจุดเริ่มต้นที่สี่แยกตลองตันจุดตัดถนนเพชรบุรีและถนนรามคำแหง ยาวไปตัดกับถนนศรีนคริทร์ที่แยกพัฒนาการและสิ้นสุดที่ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) นอกจากนั้นยังมีทางลัดที่สามแยกพัฒนาการ 25 ที่เป็นทางลัดเชื่อมกับถนนกำแพงเพชร 7 เส้นวิ่งเลียบทางรถไฟไว้ใช้หนีรถติดไปออกหลังรามคำแหงเชื่อมเส้นพระราม 9 ได้ค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวมบนถนนพัฒนาการจะเป็นอาคารพาณิชย์, ตึกแถวและโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่

การเข้าถึงโครงการถ้ามาจากในเมืองสามารถใช้เส้นพระราม 9, ถนนเพชรบุรี, ถนนรามคำแหง เพื่อเข้าทางหลักที่จะใช้เข้าตัวโครงการได้ นั่นคือถนนพัฒนาการแล้ววิ่งบนถนนพัฒนาการฝั่งมุ่งหน้าถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) หรือถ้าใครใช้เส้นนอกเมืองก็สามารถใช้เส้นศรีนครินทร์เข้าถนนพัฒนาการได้ที่แยกพัฒนาการซอยพัฒนาการ 38 จะอยู่ฝั่งมุ่งหน้าแยกคลองตัน หรือจะใช้เส้นสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) เข้าพัฒนาการก็ได้ค่ะ ส่วนการจราจรบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างติดแต่ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับเส้นอ่อนนุชและรามคำแหง เพราะฉะนั้นใครต้องเข้าไปทำงานในเมืองต้องเผื่อเวลากันให้ดี หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นักเพราะตัวโครงการเข้าซอยมาค่อนข้างลึกแถมยังอยู่เกือบท้ายสุดของตัวพฤกษา อเวนิวเลยด้วย การเดินทางเข้าถึงโครงการก็ต้องใช้บริการ Taxi หรือไม่ก็พี่วินที่จะมีอยู่ช่วงต้นและช่วงกลางๆซอยพัฒนาการ 38 เท่านั้น และถ้าจะออกจากโครงการไปข้างนอกก็จะลำบากกว่าอีกหน่อยเพราะโดยปกติในโครงการจะไม่มี Taxi ผ่านไปมาอยู่แล้ว พี่วินก็ไม่มี ต้องเดินมากลางๆซอยซึ่งค่อนข้างไกลแต่ถ้าใครฟิตๆ จะเดินมาก็ได้แต่เหนื่อยหน่อยนะ ดังนั้นทางเลือกที่เราจะแนะนำคือต้องเรียก Taxi เข้ามารับค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS อ่อนนุช, Airport Link สถานีหัวหมากและรามคำแหงแต่ยังไงก็ไกลจากตัวโครงการค่อนข้างมาก ต้องอาศัย Taxi อยู่ดีค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินของโครงการนี้ไม่มี เพราะร้านอาหารต่างๆส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนจึงมีเต็นท์ขายอาหารและร้านอาหารเล็กๆที่เป็นของชาวบ้านแถวนั้น ที่หน้าปากซอยก็มี Family Mart พอให้พึ่งพิง ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างออกมาหน่อยจะมี Tesco Lotus ที่อยู่ระหว่างซอยพัฒนาการ 43 กับ 45 และ Max Value ที่ใกล้ๆกับแยกพัฒนาการ ส่วนพวก Community Mall ก็มีให้เลือกหลายที่เหมือนกัน ที่ใกล้ที่สุดจะเป็น London Street จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารในเครือ MK ค่ะ ไกลออกมาหน่อยก็จะมี Thanya Park บนถนนศรีนครินทร์, The Nine พระราม 9 และ PickaDaily คอมมิวนิตี้มอลล์สไตล์อังกฤษ บนถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ส่วนห้างใหญ่ๆที่อยู่ใกล้โครงการก็จะมี Paradise Park, Seacon Square บนถนนศรีนครินทร์ หรือ Central พระราม 9 บนถนนพระราม 9 ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคือ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ค่ะ

การเดินทางไปโครงการในวันนี้เราจะเริ่มเก็บภาพให้ดูตั้งแต่ถนนรามคำแหงเข้าแยกคลองตันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของถนนพัฒนาการ ตรงไปตามถนนพัฒนาการเรื่อยๆ แล้วกลับรถใต้อุโมงค์ก่อนถึงซอยพัฒนาการ 39 เมื่อขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ตรงมาอีกหน่อยถึงซอยพัฒนาการ 38 เลี้ยวเข้าซอย ขับไปตามทางประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเข้าไปในอาณาจักรพฤกษา อเวนิว ขับตามทางไปเรื่อยๆเจอวงเวียนแรกเลี้ยวขวา เมื่อเจอวงเวียนที่ 2 เลี้ยวซ้าย โครงการจะอยู่ทางขวามือค่ะ

สรุปเส้นทางการเดินทาง ถนนรามคำแหง > แยกคลองตัน > ถนนพัฒนาการ > ซอยพัฒนาการ 38 > พฤกษา อเวนิว > พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ

เริ่มต้นที่ถนนรามคำแหงบริเวณแยกคลองตันซึ่งเป็นจุดตัดถนนเพชรบุรีกับถนนรามคำแหง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัฒนาการค่ะ

เข้ามาวิ่งบนถนนพัฒนาการซึ่งเป็นถนน 6 เลน แบ่งเป็นฝั่งละ 3 เลนค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอแยกใต้ทางด่วนพัฒนาการ เลี้ยวซ้ายไป พระราม 9 และรามอินทรา และแยกนี้จะเป็นแยกที่เป็นจุดขึ้นลงทางด่วน(รามอินทรา – อาจนรงค์) ที่ใกล้โครงการที่สุดด้วยค่ะ

จากแยกถ้าเลี้ยวขวาจะไปบางนา-ดาวคะนอง และดินแดง-แจ้งวัฒนะได้ค่ะ

ยังไม่ทันจะพ้นแยกเราก็เห็นป้ายบอกทางไปโครงการแล้วค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆจะเจออีกแยก คือแยกพัฒนาการ 25 ซึ่งสามารถพาเราไปพระราม 5 และรามคำแหงได้ค่ะ

มี Mini BigC ในปั๊มปตท. ที่ฝั่งตรงข้าม

ผ่านสะพานข้ามคลองลาว

เลยสะพานมานิดเดียวเราก็จะเห็นป้ายกลับรถ ก็ให้เตรียมชิดขวาตามป้ายบอกได้เลยค่า

ชิดขวามาเรื่อยๆจะเห็นทางลงอุโมงค์กลับรถ ส่วนซ้ายมือก็จะเป็นถนนพัฒนาการ ตรงไปเรื่อยๆจะไปผ่านแยกพัฒนาการและไปสุดที่ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช)

ลงอุโมงค์แล้วว

ตอนนี้เราก็มาอยู่อีกฝั่งกันแล้วค่ะ

ขึ้นมาจากอุโมงค์ก็ชิดซ้ายไว้นะคะ ไม่ต้องรีบร้อนเปลี่ยนเลน เพราะซอยพัฒนาการ 38 นี้อยู่ไม่ไกลค่ะ

ข้ามสะพานลาวกันอีกครั้ง

เห็นสะพานนี้แล้วก็เตรียวเลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ

เข้าซอยพัฒนาการ 38

เข้ามาในซอยพัฒนาการ 38 แล้วขับตรงไปอีกประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงปากทางเข้าพฤกษาอเวนิวค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมในซอยพัฒนาการ 38 จะเป็นชุมชนมุสลิม ช่วงต้นซอยจะมีร้านอาหารและมัสยิด ถัดมาในซอยลึกๆหน่อยจะเป็นอพาร์ทเมนท์และที่พักอาศัยทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวค่ะ

ที่ปากซอยจะมี Family Mart และคิวพี่วินอยู่ด้วยค่ะ

ถัดมาเป็นเต็นท์ขายอาหาร มีทั้งของสด ของแห้ง อาหารสำเร็จค่ะ

ตามทางก็จะมีร้านขายอาหารและร้านขายของชำ

ข้ามสะพานข้ามคลองพระโขนง – คลองบ้านป่า

ลงมาจากสะพานจะเจอมัสยิดอันวารุ้ล อับร๊อค ซึ่งลูกบ้านในโครงการพฤกษาอเวนิวก็อาจจะได้ยินเสียงละหมาดกันบ้างนะคะ

ขับตามทางในซอยมาเรื่อยๆ ช่วงกลางๆซอยจะเริ่มเป็นที่พักอาศัยมากขึ้น มีอพาร์ทเมนท์ 2 – 4 ชั้น

เข้ามาอีกนิดช่วงใกล้ๆถึงพฤกษา อเวนิวจะเป็นทาวน์เฮาส์สูง 2 – 3 ชั้น

ถึงตัวทางเข้าพฤกษา อเวนิวแล้วค่ะ ส่วนถนนทางขวาที่ติดกันนั้นจะเป็นซอยตันนะคะ

เข้ามาปุ๊ป เราจะเจอป้อมรปภ. ต้องรับบัตรเข้าโครงการค่ะ

สองโครงการแรกที่เจอคือโครงการ Patio และ The Plant

ตรงมาเรื่อยๆจะโครงการ The Palm และวงเวียนแรก เราเลี้ยวขวา

ตรงมาจะเจอโครงการภัสสร เพรสทีจ

โครงการ Villette Lite ทางซ้ายมือ

และเจอโครงการ The Palm พร้อมวงเวียนจุดที่สอง จากตรงนี้เราเลี้ยวซ้ายค่ะ

เลี้ยวซ้ายมาเราจะเจอโครงการพฤกษาวิลล์ 73 เป็นโครงการแรกทางขวามือค่ะ

ก่อนที่เราจะไปดูรายละเอียดอื่นๆของโครงการ เดี๋ยวจะขอเล่ารายละเอียดของตัวพฤกษา อเวนิวให้อ่านกันก่อนนะคะ ตัวพฤกษา อเวนิว (Pruksa Avenue) เป็นกลุ่มโครงการแนวราบของพฤกษาบนผืนที่ดินขนาดใหญ่ โดยมีการวางผังให้ทุกโครงการมีถนนเชื่อมถึงกันหมด ซึ่งขอบเขตถนนของโครงการแต่ละเส้นจะสิ้นสุดที่สะพานเชื่อมต่อถนนในซอยพัฒนาการ 32, 38 และ 44

โดยที่ซอยพัฒนาการ 38 คือทางเข้าหลักของโครงการที่เราถ่ายภาพการเดินทางมาให้ดูกันไปแล้วในตอนต้น ส่วนซอยพัฒนาการ 32 และ 44 นั้นยังคงเป็นถนนบนที่ดินส่วนบุคคลที่ตอนนี้ยังสามารถใช้เป็นทางรองสำหรับเข้าออกโครงการได้ค่ะ

นอกจากทางหลักที่เชื่อมต่อกับถนนพัฒนาการแล้วยังมีเส้นทางลัดท้ายโครงการอีก 2 เส้นทางคือซอยอนามัยที่สามารถใช้ลัดเลาะไปยังถนนศรีนครินทร์ และซอยอ่อนนุช 39 ที่ใช้ลัดไปออกถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ได้เช่นกันค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• The Mall รามคำแหง 5.9 กม.
• เกษมบัณฑิต 5.3 กม.
• London Street 4.3 กม.
• Picka Daily 3.9 กม.
• Max Value 3.1 กม.
• Gateway เอกมัย 7.8 กม.
• Thanya Park 4.0 กม.
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ 4.8 กม.
• ตลาดสดพัฒนาการ 4.6 กม.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 4.7 กม.
• Tesco Lotus 4.2 กม.
• The Nine พระราม 9 8.5 กม.
• Seacon Square 4.9 กม.
• Paradise Park 6.1 กม.

รอบๆโครงการ

ด้านหน้าโครงการเป็นโครงการเพื่อนบ้าน Villette Lite

ซ้ายมือเป็นถนนภาระจำยอมกว้าง 12 เมตร ของพฤกษาอเวนิวเส้นทางนี้จะพาเราไปทางด้านหน้าของโครงการ

ส่วนทางขวามือเป็นสะพานข้ามคลอง เป็นจุดสิ้นสุดของถนนเส้นนี้ค่ะ

ติดกับรั้วโครกงารเป็นถนนเข้าบ้านคลองจวญ ซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลค่ะ

เดินมาดูบรรยากาศกันอีกนิดที่ดินติดกับโครงการทางด้านทิศตะวันออกจะเป็นที่ดินเปล่า

ตรงกันข้ามเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ไม่มีกลิ่นและขยะค่ะ

ในโครงการ

ก่อนพาเข้าไปชมโครงการ ขออธิบายผังโครงการคร่าวๆก่อนนะคะ โครงการ พฤกษาวิลล์ 73 เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 470 ยูนิต โครงการแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกเป็นทาวน์โฮมล้วนๆ ส่วนเฟสที่สองจะเน้นบ้านแฝดเพิ่มเข้ามาและมีทาวน์โฮมด้วยบางส่วนค่ะ โดยแบบบ้านจะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ทาวน์โฮม BV3 – MO1 พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม, BV4 – MO1 พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม และแบบบ้านแฝด Grand Balina – MO1 พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม

จากผังจะเห็นว่าโครงการจะมีทางเข้าออกทางเดียวคือทางเข้าหลักจากถนนพฤกษา อเวนิว โดยต้องผ่านป้อมรปภ. ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็น Double Security Gate คือประตูรั้วไม้กระดก และประตูบานใหญ่อีกชั้นหนึ่ง ที่คัดกรองลูกบ้านด้วยระบบ Access Key Card ระยะใกล้ เข้ามาในโครงการจะเจอถนน Main ของโครงการกว้าง 16 เมตร และมีถนนรองกว้าง 12.70 เมตร เป็นถนนช่วงสั้นๆตรงท้ายโครงการ ถนนในซอยย่อยกว้าง 9 เมตร ส่วนกลางจะอยู่ที่ต้นโครงการมี Bale House ซึ่งเป็นส่วนของนิติบุคคล,สระว่ายน้ำพร้อมจุดล้างตัวและห้องน้ำ 1 จุด ส่วนสวนหย่อมที่อยู่ติดกันเป็นสวนขนาด 1 – 2 – 93.5 ไร่ พร้อมศาลานั่งพักและ Jogging Track รอบสวน

ตัวบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือโซนฝั่งหน้าบ้านคือห้องรับแขกและห้องนอนจะได้รับแสงแดดช่วงเช้า และจะร่มในตอนบ่าย แต่จะอับลมในช่วงเดือน มี.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วง ฤดูร้อน-ฝน ส่วนบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้ฝั่งหน้าบ้านคือห้องรับแขกและห้องนอนใหญ่จะได้รับแสงแดดช่วงเช้า และจะร่มในตอนบ่าย แต่จะอับลมในช่วงเดือน มี.ค.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วง ฤดูร้อน-ฝน ซึ่งใครชอบแบบไหนก็ลองไปเลือกชมกันที่โครงการได้ค่ะ

ซุ้มทางเข้าหลักโครงการตกแต่งสไตล์บาหลี แบ่งทางเข้าออกสองฝั่ง

ด้านข้างซุ้มฝั่งซ้ายเป็นสวนหย่อมเล็กๆ พร้อมป้ายโครงการ

ป้ายโครงการพร้อมสวนหย่อมอีกด้าน

ระบบรักษาความปลอดภัย Double Security Gate คือมีประตูรั้วไม้กระดกกั้นและมีประตูรั้วใหญ่ที่เป็นเหล็กโปร่งกั้นให้อีกชั้นหนึ่งค่ะ โดยการคัดกรองลูกบ้านจะใช้ Access Card แบบระยะใกล้ คือต้องยื่นบัตรแตะผ่านรั้วไม้กระดก และมีกล้อง CCTV 2 จุด ส่องหน้าคนขับและส่องป้ายทะเบียน ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนนะคะ

พื้นถนนเป็น Concrete Stamp

ด้านข้างมีประตูทางคนเดิน

เข้ามาในโครงการเจอถนนหลักกว้าง 16 เมตร

ซ้ายมือคือ Bale House เป็น Sales Office ซึ่งในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นนิติบุคคลค่ะ

ด้านหน้า Bale House จะมีที่จอดรถและมีรถกอล์ฟสำหรับผู้ที่มาติดต่อโครงการ

ติดกับ Bale House เป็นสวนหย่อมหลักของโครงการซึ่งเดี๋ยวเราจะไปดูสภาพรวมๆของโครงการก่อนแล้วเราจะกลับมาดูรายละเอียดส่วนกลางกันตอนท้ายนะคะ

ตรงข้ามกับ Bale House และส่วนกลางเป็นบ้านตัวอย่าง

ขวามือเป็นโครงการทาวน์โฮมเฟส 1 ส่วนซ้ายมือเป็นเฟส 2 ที่จะมีบ้านแฝดเพิ่มเข้ามาและกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ถนนหลักจะมีฟุตบาทขนาดประมาณ 1 คนเดินสบาย มีต้นไม้ลงไว้ให้ตลอดทางช่วยให้บรรยากาศร่มรื่น

ถนนในซอยกว้าง 9 เมตร เนื่องจากโครงการเฟส 1 เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วบางส่วนค่ะ

หน้าบ้านทุกหลังจะทำเป็นถนนลาดเอียงแบบนี้ จะได้ถอยรถเข้าออกบ้านได้สะดวก

ระหว่างบล็อคบ้านแต่ละชุดจะมีจุดกลับรถให้ พร้อมลงต้นไม้ให้ 1 ต้นแบบนี้ค่ะ

รั้วโครงการสูง 2 เมตร

กลับมาดูที่ Bale House ตกแต่งในแบบสไตล์บาหลี

บรรยากาศด้านใน Sale Office ก็ตกแต่งออกมาได้เข้ากับ Concept บาหลี

ซ้ายมือมีที่นั่งต้อนรับ ด้านหลังจะมีห้องน้ำให้บริการค่ะ

ที่นั่งรับรองอีกด้านหนึ่ง

กลับออกมาด้านนอก Sale Office จะเป็นสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 7 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 2.5 x 5.4 เมตร ลึก 0.4 เมตร

สระระบบน้ำล้น

มีที่นั่ง 1 ชุด บน Pool Deck รอบสระ

และ Day Bed 4 ชุด พร้อมร่มกันแดดและฝน

มุมจาก Day Bed มองไปยังสระว่ายน้ำ

ติดกับ Bale House จะมีจุดล้างตัวและห้องน้ำ

จุดล้างตัวมีฝักบัว 2 ชุด

เข้ามาในห้องน้ำมีอ่างล้างมือพร้อมกระจก 1 ชุด และห้องน้ำสาธารณะ 1 ห้อง

ด้านในห้องน้ำค่ะ

มาที่สวนหย่อมขนาดใหญ่ของโครงการ

มี Jogging Track รอบสวน

และมีที่นั่งคอนกรีตเป็นระยะๆ

ศาลานั่งพักสไตล์บาหลี 1 หลัง

ด้านในโปร่งโล่ง ลมโกรกดี มีที่นั่งพักผ่อน 2 จุด

มุมจากศาลามองออกมาที่สวน

บ้านตัวอย่าง

แบบบ้านในโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 แบบ เป็นแบบบ้านทาวน์โฮม 2 แบบ และแบบบ้านแฝด 1 แบบคือ

• BV3 – MO1 : พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
• BV4 – MO1 : พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• บ้านแฝด Grand Balina – MO1 : พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

โดยทั้ง 3 แบบจะมีแนวทางการออกแบบที่เหมือนกันคือใช้สไตล์บาหลีเป็นหลัก คุมโทนด้วยสีน้ำตาล และมีการเพิ่มรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างค้ำยันใต้หลังคา และบานกรอบประตูหน้าต่างที่ใช้อลูมิเนียมอบสีน้ำตาล ทำให้ภาพรวมของบ้านดูเป็นสไตล์บาหลีมากขึ้นค่ะ

เริ่มกันที่แบบบ้านแฝดกันก่อน Type Grand Balina – MO1 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 135 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ บนที่ดินเริ่มต้น 38.5 ตร.วา เมื่อเข้ามาในบริเวณบ้านจะเจอกับพื้นที่จอดรถขนาด 2 คัน ส่วนทางเข้าบ้านจะมีทางเดียวคือประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน ไม่มีประตูที่ใช้เข้าจากที่จอดรถนะคะ เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับแขกก่อน จากห้องรับแขกจะมีพื้นที่ต่อเนื่องไปยังห้องทานอาหารและห้องครัว โดยที่ห้องครัวจะให้มาเป็นครัวเปิดค่ะ คือจะไม่กั้นห้องมาให้ ซึ่งตรงนี้ถ้าหากเรากังวลเรื่องกลิ่นรบกวนก็สามารถกั้นห้องเองได้ไม่ยาก เพราะเค้าวางแปลนมาให้ค่อนข้างเป็นสัดเป็นส่วนอยู่แล้ว จากครัวจะมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะอยู่ติดกับบันได ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากบริเวณห้องรับแขกและห้องทานอาหาร โดยห้องน้ำที่ชั้น 1 นี้จะมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยแต่ไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้นะคะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง เป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและ Master Bedroom ที่จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าอีก 2 ห้อง มีระเบียงหน้าบ้านและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับจะเป็น Walk – in Closet ได้ ซึ่งทั้ง 3 ห้องนี้จะใช้ห้องน้ำที่โถงบันไดร่วมกัน โดยห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันนี้จะมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากโถงบันไดและ Master Bedroom นอกจากนั้นในห้องน้ำจะมีการกั้นส่วนแห้งส่วนเปียก และแยกส่วนอ่างล้างมือออกจากส่วนห้องน้ำและส่วนอาบน้ำด้วยประตูบานเลื่อนเพื่อที่จะได้ใช้งานได้พร้อมๆกัน แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องใช้ห้องน้ำพร้อมๆกันทุกคนก็อาจจะไม่เพียงพอคงจะต้องลงไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างค่ะ

มาดูของจริงกันค่ะ ตัวบ้านตกแต่งสไตล์บาหลี โทนสีของบ้านจะเป็นสีน้ำตาล – เทา ดูดีทีเดียวค่ะ

ส่วนหน้าบ้านจะถูกแบ่งเป็นที่จอดรถและประตูหลักสำหรับเข้าบ้าน

มาเดินดูรอบๆบ้านกันก่อน เริ่มจากฝั่งซ้ายมือ

ทำเป็นสวนและมีทางเดินให้ดูแบบนี้ แต่ของจริงแปลงมาตรฐานจะได้เป็นทรายปรับระดับ แต่ถ้าเป็นแปลงมุมที่ติดถนนหลักของโครงการจะมีปูหญ้ามาให้ค่ะ

พื้นที่หลังบ้านจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อย และจะเห็นว่าบนชั้น 2 ไม่มีที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ก็ต้องติดตั้งแบบลอยตัวเหมือนในบ้านตัวอย่างแบบนี้ค่ะ

ลานซักล้างหลังบ้านของจริงจะเป็นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ

ส่วนประตูที่เชื่อมลานซักล้างกับครัวจะเป็นบานประตู UPVC สีขาว มีกันสาดเล็กๆเหนือประตูและหน้าต่าง พร้อมดวงไฟฟลูออเรสเซ้นท์ 1 จุด

พื้นที่ที่ติดกันกับเพื่อนบ้านตรงนี้ของจริงจะได้เป็นรั้วทึบสูง 1.5 เมตร

พื้นที่จอดรถของจริงเป็นซีเมนต์ฉาบเรียบ และได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด

จากพื้นที่จอดรถจะมีช่องเชื่อมกับส่วนทางเข้าบ้านเล็กๆแบบนี้ ซึ่งก็ไม่พอที่จะวางอะไรหรือเดินผ่านไปได้ เป็นได้แค่ช่องให้ลมพัดผ่านเพื่อความโปร่งค่ะ

เฉลียงทางเข้าบ้านยกระดับขึ้นมาประมาณ 20 ซม. ขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 1 x 3.6 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. พื้นที่ด้านข้างสามารถวางชั้นวางรองเท้าหรือที่เก็บของเล็กๆน้อยๆแต่ระวังอย่าให้ใหญ่เกินไปนะคะ เดี๋ยวจะเกะกะทางเดิน

ประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาล กระจกเขียวตัดแสง ที่จะช่วยกรองความสว่างที่จะเข้าบ้านให้ลดลงได้บ้าง แต่ไม่ช่วยในเรื่องความร้อน ซึ่งถ้าเรากังวลเรื่องความร้อนที่จะเข้าบ้านก็สามารถติดฟิล์มกรองแสงหรือติดม่านกัน UV เพิ่มเติมได้ ส่วนด้านข้างบานประตูเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ไว้เพิ่มช่องแสงให้กับตัวบ้าน ประตูที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ

พื้นชั้น 1 ยกสูงประมาณ 6 เซนติเมตร ตัวรางเลื่อนติดตั้งแบบลดระดับมาให้แล้ว เวลาเดินเข้าออกบ้านจะลดโอกาสสะดุดได้ดีค่ะ

มือจับและตัวล็อคประตู

เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ผนังได้เป็นคอนกรีตฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวผนังสีขาว

ส่วนรับแขกจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ซึ่งแสงสว่างในเวลากลางคืนน่าจะไม่เพียงพอ แนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มเติม หรือจะดรอปฝ้า แล้วฝังไฟดาวน์ไลท์เพิ่มเหมือนในบ้านตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่ดีนะคะ

ห้องรับแขกจะได้แสงธรรมชาติมาจากชุดหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้างและประตูทางเข้าหลักของบ้าน

ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง มาให้ดูซึ่งก็เหมาะสมกับพื้นที่ดี แต่ถ้าเราอยากจะขยับขนาดขึ้นเป็น 4 ที่นั่งก็ยังได้อยู่ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นโต๊ะวางทีวีมี Built – in ผนังเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนของจริงจะได้เป็นผนังเรียบทาสี ซึ่งเราสามารถจะหาชั้นวางทีวีขนาดใหญ่พร้อมชั้นวางของมาใส่ก็ได้หรือจะติดทีวีไว้กับผนังเลยก็ได้ค่ะ จะได้เพิ่มระยะการนั่งดูทีวีด้วย

มีระยะดูทีวีหลังหักระยะวางโซฟาและโต๊ะวางทีวีแล้วก็จะเหลือประมาณ 2.4 เมตร เป็นระยะสามารถวางทีวีจอขนาด 40 – 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นส่วนรับประทานอาหาร มีช่องแสงมา 2 จุด คือหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่ข้างบ้าน และหน้าต่างบานเลื่อนคู่ฝั่งหลังบ้าน และนอกจากหน้าต่าง 2 บานหลักๆแล้วยังได้อานิสงค์จากหน้าต่างห้องรับแขกมาด้วย

หน้าต่างบานใหญ่ข้างบ้านนอกจากจะใช้เปิดเพื่อให้อากาศถ่ายเทแล้ว ยังสามารถใช้เป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมพื้นที่ส่วนทานอาหารกับนอกบ้านได้เผื่อวันไหนมีเพื่อนมาแล้วจัดปาร์ตี้ BBQ นอกบ้านค่ะ

หน้าต่างบานเลื่อนคู่หลังบ้านบานกรอบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาล

จัดโต๊ะอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งมาให้ซึ่งอาจจะดูหยุมหยิมไปหน่อยเพราะยังเหลือระยะรอบโต๊ะค่อนข้างเยอะ เราสามารถเพิ่มเป็น 5 – 6 ที่นั่งได้ หรือจะคงขนาด 4 ที่นั่งไว้ แล้วเพิ่มขนาดโต๊ะใหญ่ใหญ่ขึ้นหน่อยจะได้ดูกำลังสวยค่ะ

ติดกับส่วนทานอาหารเป็นครัวเปิด, ห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้นบน

มาดูที่ส่วนครัวกันก่อน บ้านตัวอย่างกั้นประตูบานเลื่อนผิวปิดกระจกเงามาให้ดูแบบนี้ ซึ่งถือเป็นอีกไอเดียการกั้นประตูห้องแบบทึบแต่ไม่ทำให้ห้องดูแคบเพราะกระจกเงาจะช่วยสะท้อนหลอกตาให้เหมือนกับห้องดูกว้างขึ้น หรือถ้าใครไม่อยากกั้นประตูทึบก็สามารถใช้บานเลื่อนกระจกใสแทน ก็ยังได้ความโปร่งเหมือนกันค่ะ

พื้นห้องครัวลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.

ห้องครัวจะได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน

มีประตูเชื่อมครัวกับลานซักล้างหลังบ้านเป็นบาน UPVC

ห้องครัวจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง

จัดชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L เกาะตามผนังไปแบบนี้ ซึ่งทำให้มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารค่อนข้างเยอะ

วางอ่างล้างจานใกล้หน้าต่างเพื่อรับแสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดการอับชื้นค่ะ

ส่วนตำแหน่งวางเตาวางไว้ประมาณนี้ก็โอเคนะคะ มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับเตรียมอาหาร ขอแค่ไม่ไปวางใกล้ตู้เย็นมากเกินไปก็พอ

ถัดจากห้องครัวมาต่อที่ห้องน้ำใต้บันไดของชั้น 1 จะอยู่ตรงกลางระหว่างบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 และห้องครัวนะคะ

หน้าห้องน้ำก็มีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง

มีห้องเก็บของเล็กๆใต้บันได

ด้านในห้องเก็บของมีพื้นที่พอให้เก็บพวกอุปกรณ์ของใช้เล็กๆในห้องน้ำ แต่ไม่พอจะเก็บพวกไม้ถูพื้นหรือไม้กวาด

และเนื่องจากเป็นห้องน้ำใต้บันไดซึ่งความสูงฝ้าจะเสียไปให้กับบันไดค่อนข้างเยอะจึงต้องทดแทนด้วยการลดระดับพื้นเพื่อให้ได้ระยะฝ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยบ้านหลังนี้จะลดระดับพื้นลงไป 2 ขั้นแบบนี้

รวมระยะที่ลดระดับลงมาก็ประมาณ 25 ซม.

ห้องน้ำชั้น 1 พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้สีเดียวกับพื้นและกระเบื้องตกแต่งตามภาพ ส่วนฟังก์ชั่นใช้งานจะมีให้ครบค่ะ คือมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยนะคะ

มีหน้าต่างบานกระทุ้งบานเล็กๆมาให้ 1 จุด ไว้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศและถ้าใครชอบเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ก็อย่าลืมติดมุ้งลวดเพื่อนกันแมลงเข้ามาด้วยนะคะ และได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด

อ่างล้างมือแบบลอยตัว Bathroom Design ก๊อกน้ำ Rassland ไม่มีเคาน์เตอร์ใต้อ่างมาให้ ถ้ามีของใช้เยอะก็ต้องหาชั้นวางของมาติดตั้งเพิ่มเติมเอาเอง ขนาดอ่างพอดีๆค่ะ

อีกด้านของห้องน้ำเป็นพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ จากรูปจะเห็นว่าทางโครงการไม่ได้แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ และระยะระหว่างพื้นที่อาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์ค่อนข้างกระชั้นจะกั้นห้องอาบน้ำหรือจะติดม่านก็คงไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นเวลาอาบน้ำโถสุขภัณฑ์ก็ต้องเปียกไปด้วยแบบเลี่ยงไม่ได้ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ Karat ระยะการใช้งานพอดีๆ

สายชำระขนาดกลางๆค่ะ

ฝักบัว Rassland มาพร้อมที่วางสบู่

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 1.1 พออาบได้พอดีๆไม่แคบเกินไปค่ะ

ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ขั้นบันไดปิดผิวด้วยไม้ยาง ราวบันไดข้างเดียวเป็นเหล็กทาสีน้ำตาล มือจับเป็นไม้สีเดียวกันกับลูกนอนบันได

ที่ชานพักบันไดแบบผสมชานพักสามเหลี่ยม 2 ขั้นและ 4 เหลี่ยม 1 ขั้น โถงบันไดนี้มีการเจาะช่องแสงเพื่อให้โถงบันไดสว่างในเวลากลางวัน จะได้ไม่ต้องเปิดไฟค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้ากับบันได

โถงบันไดชั้น 2 จะแจกไปที่ห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำที่อยู่ตรงกลาง 1 ห้อง

มองกลับไปที่โถงบันได จะมีไฟดาวน์ไลท์มาให้แค่ 1 จุด แนะนำให้ติดโคมไฟเพิ่มสำหรับตอนกลางคืนค่ะ

เริ่มดูห้องนอนเล็กที่ติดบันไดกันก่อน บานประตูที่ได้จะเป็นบาน HDF สีขาว มือจับก้านโยกตามรูปค่ะ

พื้นห้องจะเป็นลามิเนตปูต่อเนื่องจากโถงไปโดยไม่มีตัวจบกั้นระหว่างห้อง

เข้ามาด้านในจะเป็นห้องขนาดประมาณ 3.6 x 2.2 เมตร บ้านตัวอย่างเค้าจัดมาให้ดูเป็นห้องพักผ่อน/ทำงาน ซึ่งจริงๆเราสามารถจัดเป็นห้องนอนได้ โดยใช้เตียงขนาด 3.5 ฟุตวางแบบเข้ามุมจะพอเหมาะกับขนาดของห้องนี้ค่ะ

มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน สามารถเปิดสองบานพร้อมกันแล้วปล่อยให้ลมโกรก อากาศจะได้ถ่ายเทค่ะ

ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ซึ่งถ้าเราทำเป็นห้องนอนอย่างเดียวก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องใช้แสงสว่างมากเท่าไหร่ แต่ถ้าจะทำเป็นห้องทำงานหรืออ่านหนังสือละก็ แนะนำให้ติดไฟเพิ่มนะคะ

หน้าต่างบานข้างบ้านนี้แนะนำให้ติดม่านหรือมู่ลี่กรองแสงด้วยนะคะ เพราะบานนี้อยู่ติดกับบ้านแฝดอีกหลังมองไปจะเห็นบ้านข้างๆซึ่งมีตำแหน่งหน้าต่างที่ตรงกัน มองเห็นกันได้เลยค่ะ

ถัดไปเราจะไปดูห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันบ้าง

มาที่ Master Bedroom กันก่อน

ห้องนอนใหญ่ตกแต่งมาในสไตล์บาหลี คุมโทนน้ำตาลเหมือนตัวบ้าน มีช่องแสง 2 จุด คือหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวข้างเตียงและประตูบานเลื่อนคู่ที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงหน้าบ้านค่ะ

ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุด แนะนำให้ติดไฟเพิ่มนะคะ จะติดเป็นโคมไฟสวยๆหรือจะดรอปฝ้าแล้วฝังไฟเพิ่มก็ได้ค่ะ

เราออกไปดูระเบียงหน้าบ้านกันก่อน ประตูที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนคู่ ซึ่งบานประตูค่อนข้างใหญ่แนะนำให้ติดม่านกัน UV จะได้กันความร้อนเข้ามาในห้องและรักษาความ Privacy ไว้ด้วยคะ่

มือจับด้านในและด้านนอก

มีธรณีก่อขึ้นมาสูงประมาณ 15 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายนอกกระเซ้นเข้ามาในห้องนอน

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 0.8 x 3.3 เมตร พอจะวางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆไว้นั่งจิบกาแฟยามเช้าได้ 1 ชุด หรือใครชอบต้นไม้ก็อาจจะปลูกไม้กระถางเล็กๆได้ค่ะ จะได้สร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับตัวบ้านด้วย

ตัวค้ำยันที่เพิ่มมาให้เข้ากับ Concept โครงการ

กลับเข้ามาในห้องนอน วางเตียงขนาดคิงส์ไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งมีพื้นที่เหลือเฟือสามารถวางโต๊ะเล็กข้างเตียงได้สบายๆค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งระเบียงเหลือประมาณ 75 ซม.

ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีให้เป็นตัวอย่าง ซึ่งถ้าใครไม่ชอบดูทีวีจะจัดเป็นชั้นวางหนังสือหรือตู้เก็บของสะสมก็ได้นะคะ

พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือประมาณ 1 เมตร ให้วางของได้สบายๆค่ะ

อีกฝั่งของห้องเป็น Walk – in Closet

พื้นที่ข้างเตียงฝั่ง Walk – in Closet ก็ยังเหลือให้เดินได้สบายๆค่ะ

ประตูกั้นระหว่างห้องนอนและ Walk – in Closet ทำเป็นประตูฉลุลายแบบเลื่อนเปิดปิดแบบนี้จะทำให้ดูเป็นของตกแต่งห้องอีกชิ้นสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้ค่ะ เพราะของจริงเค้าจะมาเป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีกั้นห้องมาให้นะ

ด้านใน Walk – in Closet ก็ Built – in ตู้สีเข้มติดผนังมาให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้ ซึ่งการใช้สีเข้มแบบนี้อาจจะเข้ากับ Concept ของตัวบ้าน แต่ในความเป็นจริงก็แล้วแต่ความชอบของเรานะคะ เพราะใช้สีเข้มแบบนี้จะทำให้ห้องดูแคบและทึบ ถ้าอยากได้ห้องสว่างๆโปร่งๆก็แนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์สีอ่อนๆหน่อยจะดีกว่าค่ะ

ห้องนี้จะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง กลางห้องแบบนี้ค่ะ

มีช่องแสง 1 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว ตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติ เหมาะจะวางโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งหน้าจะได้เห็นสีชัดเจนแต่งหน้าสีไม่เพี้ยนนะคะ

ทางเข้าห้องน้ำจาก Master Bedroom ก็อยู่ในส่วน Walk – in Closet

ประตูห้องน้ำทุกบานในบ้านจะได้เป็นบาน UPVC สีขาว

อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่าห้องน้ำที่ชั้น 2 นี้จะสามารถเข้าไปสองทางคือจากห้องนอนใหญ่และจากโถงบันได และนี่คือพื้นที่ทางเข้าที่เชื่อมต่อกันของห้องนอนและโถงบันไดค่ะ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. และลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.

เข้ามาในห้องน้ำส่วนแรกที่จะเจอเลยคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา

อ่างล้างหน้าชั้นบนจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ยี่ห้อ Parazzo ก๊อกน้ำของ Rassland มีพื้นที่วางของบนอ่างค่อนข้างเยอะแต่ใต้เคาน์เตอร์อาจจะวางของได้ไม่มาก เหมือนเป็นการเจาะช่องเพื่อตกแต่งมากกว่า เพราะฉะนั้นถ้ามีของใช้เยอะๆเราอาจจะต้องหาชั้นวางหรือติดตั้งตู้เพิ่มเติมที่ใต้อ่างก็ได้ค่ะ

ขนาดอ่างค่อนข้างกว้าง ยกขอบสูงป้องกyนน้ำกระเซ็นเปียกเคาน์เตอร์ได้ดีค่ะ

ในห้องน้ำเราจะได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง ที่ส่วนห้องน้ำ 1 ดวง และพื้นที่อาบน้ำอีก 1 ดวง

ส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะถูกกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยแบบขุ่น เป็นบานเลื่อนแบบนี้ค่ะ ในเวลาเร่งด่วนก็สามารถใช้ห้องน้ำและอีกคนก็สามารถล้างหน้าแปรงฟันไปพลางๆได้พร้อมๆกัน

มือจับของฉากกั้นเป็นวัสดุเดียวกับบานประตู ยกขอบขึ้นมาให้จับได้นิดหน่อยแบบนี้

ด้านหลังฉากกั้นจะมีโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำที่มีกระจกกั้นอาบน้ำมาให้อีก 1 ชุด มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว 1 จุดสำหรับระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติ

โถสุขภัณฑ์ของ Karat ตำแหน่งติดตั้งได้มาตรฐาน ระยะใช้งานสะดวกค่ะ

ส่วนฝักบัวอาบน้ำของ Rassland และที่วางสบู่ของ Karat/Kohler

พื้นห้องอาบน้ำจะมีธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 6 ซม.

ถ้าเราเข้าห้องน้ำจากทางโถงบันไดก็จะเห็นมุมประมาณนี้ค่ะ

มาที่ห้องนอนเล็กห้องสุดท้าย

ห้องนี้ตกแต่งมาแบบสดใสน่ารักด้วยโทนสีส้ม มีช่องแสง 3 จุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวฝั่งข้างบ้าน 1 ชุด, หน้าต่างบานฟิกซ์ 1 ชุด และชุดหน้าต่างผสมบานเลื่อนและบานฟิกซ์อีก 1 ชุด จากขนาดของห้องและตำแหน่งการติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนทั้ง 2 บาน จะเห็นได้ว่าเราสามารถเปิดหน้าต่างพร้อมๆกันเพื่อให้ลมโกรกพัดผ่านเตียงได้ วันไหนที่อากาศดีๆก็อาจจะไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศนอนเลยก็ได้นะ แต่อย่าลืมติดมุ้งลวดกันแมลงเข้าห้องด้วยล่ะ

เนื่องจากห้องนอนห้องนี้เป็นห้องที่วางอยู่บนหลังคาที่จอดรถไปครึ่งนึง จึงยังเหลือหลังคาที่จอดรถอีกครึ่งให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์แบบนี้ค่ะ

ห้องนี้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มาให้ดูเป็นตัวอย่าง

พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือประมาณ 50 ซม. สามารถวางโต๊ะเล็กๆไว้เก็บของหรือวางโคมไฟได้ค่ะ

ปลายเตียงก็จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ซึ่งตู้เสื้อผ้าที่จัดมาให้ดูจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิด เมื่อใช้งานจริงจะค่อนข้างลำบากเพราะระยะปลายเตียงที่เหลือไม่พอ ทำให้เปิดมาแล้วประตู้ชนกับปลายเตียงแบบนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะจัด Lay Out ห้องตามแบบบ้านตัวอย่างนี้ก็แนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนจะเหมาะกว่านะคะ

อีกมุมของห้อง

มีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ สามารถวางฟูกนุ่มๆไว้นั่งอ่านหนังสือได้แบบนี้ค่ะ

บ้านตัวอย่างหลังที่สองที่จะพามาดูกันจะเป็นแบบบ้านทาวน์โฮม BV4 MO1 พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยแบบบ้านทาวน์โฮมนี้จะมีการวางแปลนที่คล้ายกับแบบบ้านแฝด แตกต่างกันที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆและพื้นที่รอบบ้านที่จะได้น้อยกว่าบ้านแฝดค่ะ

จากแปลนจะเห็นว่าตัวบ้านจะมีทางเข้าออกแค่ทางเดียวคือทางเข้าหลักหน้าบ้าน เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอพื้นที่หลังประตูสำหรับวางตู้รองเท้าหรือเก็บอุปกรณ์อื่นๆ ถัดมาคือห้องรับแขกที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนทานอาหารและห้องครัวซึ่งจะมีประตูเชื่อมออกไปยังส่วนซักล้างหลังบ้านได้ ส่วนห้องน้ำจะเข้าได้จากทาห้องครัวและบันไดขึ้นไปชั้น 2 ก็จะอยู่ติดกับห้องรับแขกค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงบันได แบ่งออกไปยังห้องนอน 3 ห้องคือห้องนอนใหญ่ที่ฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะถูกวางไว้ฝั่งหลังบ้าน ส่วนห้องน้ำก็สามารถเข้าได้ 2 ทางเหมือนบ้านแฝดคือ จากห้องนอนใหญ่และโถงบันไดค่ะ

ตัวบ้านภายนอกก็ยังคงความเป็นบาหลีผสมโมเดิร์น เน้นโทนสีน้ำตาลและเทา มีไม้ค้ำยันใต้หลังคาเหมือนแบบบ้านแฝด

หน้าบ้านจะเป็นที่จอดรถ 2 คัน เต็มหน้ากว้างบ้านค่ะ

หลังบ้านเป็นลานซักล้างซึ่งของจริงจะเป็นพื้นซีเมนต์ขัดหยาบปาดเรียบ

พื้นที่จอดรถมีไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง และโคมไฟติดผนังสีดำข้างประตูทางเข้า 1 ดวง

เฉลียงหน้าบ้านยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. มีความยาวเต็มหน้ากว้าง และมีกว้างประมาณ 90 ซม. ซึ่งเป็นระยะเฉลียงที่ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับบ้านไหนที่มีรถไซส์มาตรฐาน แต่ถ้าเป็นรถกระบะที่มีท้ายยาวอาจจะต้องถอยด้วยความระมัดระวังหน่อยนะคะ

บานประตู UPVC กรุผิวลามิเนต

มือจับก้านโยกแสตนเลส จับได้ถนัดมือค่ะ

พื้นบ้านชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. และยกระดับขึ้นมาประมาณ 4 ซม.

เข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่โถงบันไดก่อนเป็นส่วนแรก ติดกันคือห้องรับแขกเป็นและถัดจากห้องรับแขกไปจะเป็นส่วนของห้องทานอาหาร ความสูงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวเชิงผนังสีขาว

ห้องรับแขกจะได้ไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง

หันกลับมาดูที่ประตูทางเข้า หลังประตูจะมีพื้นที่ว่าง สามารถใช้วางตู้วางรองเท้า หรือชั้นเก็บของเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ

ถึงแม้ว่าประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูทึบ แต่ยังมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่และบานเลื่อนเดี่ยวที่เป็นช่องแสงให้กับห้องนั่งเล่นได้ค่ะ

หน้าต่างบานเลื่อนคู่เป็นบานเลื่อนเปิดออกด้านข้างแบบนี้ค่ะ

บ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งมาให้ดูแบบนี้ซึ่งก็ดูพอดีกับพื้นที่แล้ว แต่ถ้าอยากจะเพิ่มอีกเป็น 4 ที่นั่งก็ยังพอจะไหวหรือถ้าใครชอบโซฟาตัวยาว จะวางโซฟารูปตัว L เกาะไปกับผนังอีกฝั่งก็ยังได้ แต่จะไม่มีพื้นที่ข้างโซฟาเหลือให้วางโต๊ะเล็กแล้วนะ

ส่วนการจัดวางทีวีของห้องรับแขกอาจจะต้องอาศัยฉากหรือผนังลอยแบบนี้เพื่อจะได้กั้นแยกห้องรับแขกกับห้องทานอาหารให้เป็นสัดเป็นส่วนค่ะ

ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางทีวีขนาดประมาณ 42″ – 47″ จะได้ขนาดทีวีที่เหมาะสมค่ะ แต่เนื่องจากเราสามารถกำหนดระยะดูทีวีตรงนี้ได้เอง จึงขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะคะว่าจะวางฉากกั้นวางทีวีไว้ที่ตำแหน่งไหน

ถัดจากห้องนั่งเล่นต่อไปเราจะไปดูกันที่ห้องทานอาหารค่ะ

ที่ห้องทานอาหารจะได้ช่องแสงมา 2 จุดคือบานข้างบ้าน และอีก 1 บานที่ฝั่งหลังบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างที่เราพามาดูนี้จะเป็นบ้านแปลงมุม จึงได้ช่องแสงมา 2 จุด ตามภาพ แต่ถ้าหากเป็นบ้านแปลงมาตรฐานก็จะได้หน้าต่างมาแค่บานเดียวคือบานหลังบ้านนะคะ

ส่วนทานอาหารจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ตรงนี้แนะนำให้ติดไฟเพิ่มนะคะ จะเป็นโคมไฟหรือจะดรอปฝ้าเพื่อติดไฟเพิ่มก็ได้ค่ะ

โครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูซึ่งเป็นขนาดที่พอดีกับพื้นที่แล้ว ถ้าใหญ่กว่านี้ก็อาจจะเกะกะทางเดิน และใช้งานไม่สะดวกนะ

ติดกับห้องทานอาหารเป็นส่วนของห้องครัว ซึ่งบ้านจริงที่ได้เราจะได้เป็นครัวเปิดนะคะ คือไม่มีการกั้นห้องอะไรมาให้ แต่ถ้าใครกังวลเรื่องกลิ่นที่จะลอยเข้ามาติดเฟอร์นิเจอร์ก็ควรกั้นห้องให้เป็นครัวปิด โดยแนะนำให้ใช้อะไรที่ไม่ทำให้ห้องดูทึบมากไปอย่างประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ

บ้านตัวอย่างก็กั้นพื้นที่มาให้ดูด้วยฉากกั้นกระจก ซึ่งฉากกั้นแบบนี้จะไม่ช่วยเรื่องกลิ่นจากการทำอาหารนะคะ แต่ถ้าบ้านไหนคิดว่าคงไม่ทำอาหารทานกันอยู่แล้วก็สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียได้เหมือนกันค่ะ

ส่วนของห้องครัวจะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว และไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง

ทางโครงการลองวางเคาน์เตอร์ครัวมาให้ดูเป็นแนวทางแบบนี้ ซึ่งก็ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าเหมาะจะเก็บไว้เป็นไอเดียตกแต่งบ้านค่ะ

ส่วนห้องน้ำที่ชั้น 1 ของบ้านหลังนี้จะเข้าได้จากห้องครัว

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ และลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.

ในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นครบทั้งห้องน้ำและพื้นที่อาบน้ำ แต่ไม่ได้แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกมาให้นะคะ

อ่างล้างมือทรงรีแบบลอยตัวของ Karat และก๊อกน้ำของ Rassland

ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Karat ตำแหน่งติดตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่อาบน้ำมากๆ เวลาเราอาบน้ำโถสุขภัณฑ์จะต้องเปียกแน่นอนค่ะ

สายชำระขนาดพอดีๆ

ฝักบัวอาบน้ำ Rassland พร้อมที่วางสบู่

ฝักบัวขนาดพอดีๆไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ

พื้นที่สำหรับอาบน้ำขนาดประมาณ 1.3 x 0.8 เมตร เพียงพอให้ขยับตัวอาบน้ำได้สบายๆ แต่ถ้าจะกั้นห้องอาบน้ำหรือติดม่านกั้นอาบน้ำพื้นที่ขนาดนี้คงไม่เพียงพอนะ

ออกมาจากห้องน้ำมองไปฝั่งหน้าบ้านจะเห็นว่าการใช้ฉากกั้นสำหรับวางทีวีเป็นแบบฉลุจะช่วยให้ภาพรวมของพื้นที่ยังดูโปร่งอยู่ค่ะ

มาที่บันไดขึ้นไปชั้น 2 กันต่อ ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดหน้าด้วยไม้สังเคราะห์ ราวบันไดสีน้ำตาลมือจับสีเดียวกันกับไม้ปิดหน้าบันได ส่วนที่ข้างบันไดจะมีช่องเก็บของเล็กๆอยู่ด้วย

ขนาดห้องเก็บของนี้จะเป็นห้องที่ใช้พื้นที่ใต้บันไดที่ยังเหลืออยู่ ก็พอใช้เก็บพวกน้ำยาทำความสะอาดหรือสบู่แชมพูที่เราซื้อมาเก็บไว้ได้ แต่คงเตี้ยไปสำหรับการเก็บไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดค่ะ

โถงบันไดทึบไม่มีช่องแสงและไฟส่องสว่างมาให้ แนะนำว่าควรติดดวงไฟเพิ่มเติม อาจจะเป็นไฟติดผนัง ติดเป็นระยะๆ 2 – 3 ดวง หรืออาจจะใช้โคมไฟระย้าเก๋ๆเหมือนในบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ค่ะ

ชานพักบันไดแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นชานพักสามเหลี่ยม ส่วนชานพักด้านบนจะเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยมซึ่งชานพักแบบสี่เหลี่ยมจะค่อนข้างเดินได้สะดวกและปลอดภัยกว่าชานพักสามเหลี่ยมด้านล่างค่ะ

พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต ลายไม้สีเข้ากับบันไดทั้งชั้น ยกเว้นส่วนห้องน้ำและระเบียงหน้าบ้านค่ะ

ขึ้นมาจะเจอโถงบันได ที่ชั้น 2 นี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom และฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และมีห้องน้ำที่โถง 1 ห้องซึ่งสามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจาก Master Bedroom และโถงบันไดเพื่อจะได้สะดวกในการใช้งานเพราะห้องน้ำห้องนี้ต้องใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้องเลยค่ะ

หันกลับไปดูภาพรวมโถงบันไดซะหน่อย

เริ่มดูห้องนอนห้องแรก คือห้องที่อยู่ติดบันได บานประตูของจริงที่ได้จะเป็นบาน HDF สีขาว วงกบ UPVC และลูกบิดกลมมาตรฐาน

พื้นห้องก็ยังคงเป็นพื้นลามิเนตที่ปูยาวมาจากโถงบันได ไม่มีตัวจบกั้นห้อง

ห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.5 x 2.5 เมตร มีช่องแสงเพียงจุดเดียวคือบานหน้าต่างทางหลังบ้าน บ้านตัวอย่างที่ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นห้องทำงาน ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถที่จะทำเป็นห้องนอนได้ โดยขนาดเตียงที่เหมาะสมกับห้องนี้ก็จะเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุตค่ะ

ได้ไฟดาวน์ไล์มา 1 ดวง

อีกมุมของห้อง

ห้องถัดไปที่เราจะมาดูกันคือห้องนอนเล็กอีกห้อง ซึ่งอยู่ฝั่งหลังบ้านและติดกับห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันด้วยค่ะ

เปิดเข้ามาเจอห้องที่แต่งมาแบบเรียบร้อยๆ โทนสีฟ้าสบายตา

ห้องนี้มีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว ซึ่งอย่างที่เคยบอกว่าบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นบ้านแปลงมุมเพราะฉะนั้นจึงได้ช่องแสงมามากกว่าบ้านแปลงมาตรฐาน สำหรับห้องนี้ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานจะมีหน้าต่างแค่บานเดียวคือบานหลังบ้านค่ะ

ห้องนี้ก็ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวงเช่นกัน

วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. พอให้วางโต๊ะเล็กและเดินมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก

ฝั่งปลายเตียงวางตู้เตี้ยๆสำหรับเก็บของไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างจะเห็นว่าที่โครงการวางได้แค่ตู้เตี้ยๆแบบนี้เพราะติดบานหน้าต่าง ซึ่งในบ้านแปลงมาตรฐานผนังฝั่งนี้จะเป็นผนังทึบ เราสามารที่จะวางตู้สูงกว่านี้ หรือจะติดเป็นตู้ลอยก็ยังได้ค่ะ

พื้นที่เหลือปลายเตียงก็ยังเหลือให้พอเดินได้สะดวก

อีกฝั่งของห้องวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะเขียนหนังสือไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง

มุมจากปลายเตียงมองไปประตูทางเข้าห้อง

ห้องถัดมาคือ Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมดค่ะ

ด้านในยังคงตกแต่งมาแบบเรียบร้อย เน้นสีฟ้าและสีน้ำเงินสดใส

ฝั่งห้องนอนนี้จะมีช่องแสง 2 จุด คือหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้าน และหน้าต่างบานฟิกซ์ฝั่งข้างบ้านซึ่งแปลงมาตรฐานจะได้แค่หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านเท่านั้นนะคะ

หลายคนเห็นราวเหล็กหลังหลังหน้าต่างบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้านแล้วก็คงจะคิดว่าเป็นระเบียง แต่ไม่ใช่ค่ะ ตรงนี้เป็นแค่ราวเหล็กสำหรับตกแต่งเพื่อเพิ่มความเป็นบาหลีให้กับดีไซน์ภายนอกเท่านั้นค่ะ

พื้นที่ทั้งห้องตั้งแต่ห้องนอนยาวไปจนส่วน Walk – in Closet จะได้ไฟดาวน์ไลท์มาทั้งหมด 3 ดวง

ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูจากขนาดห้องแล้วเราก็สามารถจะขยับขนาดเตียงเป็นคิงส์ไซส์ได้นะคะ จะได้นอนหลับแบบสบายๆ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือเฟือ

ฝั่งปลายเตียงจะทำเป็นฉากกั้นพร้อมส่วน Walk – in Closet

ถึงจะกั้นส่วน Walk – in Closet แล้ว ก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้วาง Bench Bed ได้แบบนี้

ด้านใน Walk – in Closet จัดเป็นตู้เสื้อผ้าบานสูงให้ดูเป็นตัวอย่างแบบนี้ค่ะ

ตำแหน่งที่วางโต๊ะเครื่องแป้งใกล้กับช่องแสงแบบนี้เวลาแต่งหน้าจะได้เห็นสีเครื่องสำอางค์ไม่เพี้ยนค่ะ

กลับมาที่ส่วนของห้องนอนไปดูห้องน้ำของชั้น 2 กันต่อ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ขนาด 60 x 60 ซม. และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.

เข้ามาด้านในห้องน้ำจะเห็นว่ามีการแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน

โซนแรกคืออ่างล้างหน้า

ตัวอ่างถูกติดตั้งมาพร้อมเคาน์เตอร์ยี่ห้อ Parazzo มีพื้นที่สำหรับวางของกระจุกกระจิกบนเคาน์เตอร์เล็กน้อย ส่วนใต้เคาน์เตอร์ก็เก็บของได้ไม่เยอะเพราะฉะนั้นแนะนำว่าควรหาตู้หรือชั้นเก็บของเล็กๆมาวางไว้ในห้องน้ำด้วยค่ะ

โซนที่ 2 จะเป็นห้องอาบน้ำ ที่ถูกกั้นด้วย Shower Box มาให้เป็นสัดเป็นส่วน ประตูเป็นบานเลื่อน 3 ตอน

มือจับ จับค่อนข้างยากไปนิด

ที่พื้นห้องอาบน้ำไม่ได้มีการลดระดับมาให้แต่จะมีรางของ Shower Box ที่พอจะช่วยไม่ให้น้ำไหลซึมออกไปข้างนอกได้ค่ะ

ในห้องอาบน้ำมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว สำหรับรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ

ฝักบัวยี่ห้อ Rassland

ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.1 x 0.85 เมตร อาบได้แบบพอดีๆตัวค่ะ

ส่วนโซนที่ 3 จะถูกกั้นด้วยฉากกั้นบานเลื่อน หน้าบานเป็นกระจกฝ้านิรภัย ซึ่งฉากนี้จะกั้นพื้นที่ระหว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนโถสุขภัณฑ์ ทำให้สามารถใช้งานทั้ง 2 ฟังก์ชั่นพร้อมๆกันได้

ตัวรางเลื่อนจะเป็นรางเลื่อนด้าน ด้านล่างจะไม่มีรางมาเกะกะป้องกันการเดินสะดุดค่ะ

มือจับเป็นปุ่มทรงกลมยื่นออกมาแบบนี้ ส่วนตัวล็อคจะใช้การเกี่ยวเหมือนเกี่ยวตะขอกับตัวล็อค

เปิดออกมาจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์แบบนี้

โถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของ Karat ระยะติดตั้งพอใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัดค่ะ

ถ้าเข้าห้องน้ำจากทางห้องโถงแล้วปิดประตูก็จะได้ความเป็นส่วนตัวแบบนี้

อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟทั้งหลังใช้ของ Schnider

วิดีโอโครงการพฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ

ราคา (มีนาคม 2559)

• ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 24 เดือน
• ค่าส่วนกลางพฤกษา อเวนิว 5 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 24 เดือน
• ที่ดินเพิ่ม – ลด ตารางวาละ 77,000 บาท
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ พฤกษาวิลล์ 73 พัฒนาการ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 38 ในกลุ่มโครงการแนวราบขนาดใหญ่ชื่อ พฤกษา อเวนิว(Pruksa Avenue) สภาพแวดล้อมรอบโครงการจึงเป็นหมู่บ้านทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว มีความสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่อาจจะน้อยกว่าโครงการอื่นๆในพฤกษาอเวนิวอยู่หน่อย เพราะเป็นโครงการที่อยู่ท้ายสุดของเขตพฤกษาอเวนิว และไม่มีป้อมรปภ.ของอเวนิวเหมือนถนนฝั่งซอย 38

ส่วนในซอยพัฒนาการ 38 สภาพแวดล้อมจะเป็นชุมชนมุสลิมดั้งเดิมที่อยู่กันมานานแล้ว สังเกตได้จากมัสยิดและชื่อของอพาร์ตเมนท์ต่างๆในซอย และผลพลอยได้ของความเป็นชุมชนนั่นคือความอุดมสมบูรณ์ที่ตามมานั่นเองค่ะ ในซอย 38 มีความอุดมสมบูรณ์ให้พึ่งพิงได้อยู่ค่อนข้างเยอะ เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุด มีทั้งเต็นท์ขายอาหารสด, ร้านอาหาร, Family Mart และร้านขายของชำ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างของแถวนี้จะเป็นพวก Hyper Market และ Community Mall ซะส่วนมาก อย่าง Tesco Lotus, Max Value และ Community Mall คือ London Street, Thanya Park, Pickadaily, The Nine พระราม 9 ส่วนพวกห้างใหญ่ๆก็จะต้องออกมาไกลอีกหน่อยมี Central พระราม 9, Paradise Park, Seacon Square

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ดูจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะถนนพัฒนาการสามารถเชื่อมกับถนนเส้นสำคัญๆอย่างถนนเพชรบุรี, ถนนพระราม 9 , ถนนรามคำแหง ที่สามารถใช้ไป อโศก, เอกมัย, ทองหล่อ , พร้อมพงษ์ และถนนศรีนครินทร์ที่สามารถใช้เข้าเส้นลาดพร้าว, บางนา – ตราดได้ นอกจากนั้นยังมีทางลัดเข้าออกได้หลายทางเช่น ซอยอนามัยด้านหลังโครงการที่สามารถลัดไปถนนศรีนครินทร์ได้ และซอยอ่อนนุช 39 ที่สามารถเป็นทางลัดไปถนนสุขุมวิท 77(อ่อนนุช)ได้ นอกจากนั้นยังมีสามแยกพัฒนาการ 25 เป็นอุโมงค์ไปออกถนนกำแพงเพชร 7 ทะลุไปถนนรามคำแหงได้แต่การจราจรค่อนข้างหนาแน่นทั้งเส้นอ่อนนุช, เพชรบุรี และพระราม 9 ควรกะเวลาการเดินทางให้ดีๆนะคะ ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็เป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะตัวโครงการอยู่ในซอยค่อนข้างลึกไม่อยู่ในระยะที่จะเดินไหวและไม่มีรถสาธารณะใดๆวิ่งผ่านเข้ามาในโครงการเลย ต้องพึ่งพี่วินที่อยู่ต้นซอยและกลางซอยพัฒนาการ 38 หรือเรียก Taxi มารับเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่มี BTS อ่อนนุช, Airport Link หัวหมากและรามคำแหงให้เลือกใช้ถ้าหากต้องเดินทางเข้าเมือง(แต่ก็ต้องนั่ง Taxi ไปยังตัวสถานีก่อนอยู่ดีนะคะ)

บ้านและวัสดุ : มีการออกแบบโดยรวมในสไตล์บาหลี ที่เพิ่มความโมเดิร์นเข้าไปด้วย โดยจุดที่เพิ่มความเป็นบาหลีให้ตัวบ้านแบบเห็นได้ชัดเลยคือการวางไม้ค้ำยันใต้หลังคาและโทนสีน้ำตาล – เทา บวกกับการที่โครงการจัดสภาพแวดล้อมให้มีความร่มรื่น ทำให้ได้กลิ่นอายบรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ทแบบเบาๆเลยค่ะ

ส่วนการวางผังของบ้านจะขอแยกเป็นส่วนของทาวน์โฮมและบ้านแฝด โดยตัวทาวน์โฮมทั้ง 2 แบบนั้นจะมีการวางผังคล้ายๆกัน ต่างกันที่จำนวนที่จอดรถหน้าบ้านเท่านั้นค่ะ ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานครบเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยที่ได้มา และค่อนข้างยืดหยุ่นกับการปรับการใช้งานตามแต่ผู้อยู่อาศัย ตัวครัวก็แยกมาให้ชัดเจนสามารถกั้นห้องเป็นครัวปิดได้ง่ายๆ ไม่มีมุมไหนของบ้านที่ให้ความรู้สึกติดขัดใช้งานลำบาก ส่วนแบบบ้านแฝดก็จะมีการวางผังคล้ายๆกัน ฟังก์ชั่นด้านในก็ครบถ้วนจะต่างกันก็ตรงที่ได้พื้นที่เหลือข้างเพิ่มมากขึ้นและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ผนังร่วมกับเพื่อนบ้านค่ะ

วัสดุได้มาแบบมาตรฐานโดยบ้านที่ทางโครงการขายจะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) ลานจอดรถเป็นพื้นซีเมนท์ขัดหยาบฉาบเรียบ, พื้นชั้น 1 และพื้นห้องน้ำ เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม., พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตทั้งชั้น ส่วนระเบียงและเฉลียงหน้าบ้านได้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม., ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีติดบัวเชิงผนังมาให้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ฝ้าเพดานเป็นชั้นล่างคอนกรีตแต่งผิวเรียบทาสี, ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร ตัวฝ้าเพดานชั้นบนเป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสีส่วนห้องน้ำฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้หลายยี่ห้อด้วยกันเริ่มที่อ่างล้างมือจะใช้ของ Englefield, Parazzo,Bathroom Design ก๊อกน้ำและฝักบัวอาบน้ำ Rassland โถสุขภัณฑ์ Karat ห้องอาบน้ำมีฉากกั้นมาให้ที่ห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านทุกแบบ

ประตูและหน้าต่างภายนอกเป็นบานเลื่อนและบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาล กระจกเขียวตัดแสง, บานประตูภายในบ้านเป็นบาน HDF วงกบ UPVC ส่วนประตูห้องน้ำเป็น UPVC สีขาว, อุปกรณ์ปลั๊กและสวิทช์ไฟของ Schnider

สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Bale House ซึ่งเป็นส่วนของนิติบุคคลจะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 7 x 15 เมตร แบ่งสระเด็ก ลึก 0.4 เมตร สระผู้ใหญ่ ลึก 1.2 เมตร มีสวนหย่อมขนาดใหญ่ 1-2-9.3 ไร่ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยไปสำหรับโครงการขนาด 470 ยูนิต แต่ก็มีข้อดีตรงที่ค่าส่วนกลางก็ลดลงไปด้วย เหมาะสำหรับใครที่คิดว่าไม่ค่อยได้ใช้ส่วนกลางเท่าไหร่ มีไว้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจเป็นครั้งคราว ส่วนถนนหลักกว้าง 16 เมตร ถนนในซอยย่อย 9 เมตรถือว่าขับไปมาได้สะดวกค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัย : มีซุ้มทางเข้าที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Double Security Gate คือมีรั้วไม้กระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า พร้อมกล้อง CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card Access ระยะใกล้ ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับทางโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร รั้วระหว่างบ้านแต่ละหลังสูง 1.5 เมตร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 081-345-6660 หรือ 1739
Website : คลิกที่นี่

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

คลิกที่ภาพ เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

สำหรับโซนที่อยู่เลยจากอาคารคลับเฮ้าส์ไปทางด้านหลัง จะเป็นโซนของบ้านทาวน์โฮม

พื้นบ้านยกสูงขึ้นอีกเล็กน้อยประมาณ 10 ซม.

EP.342 รีวิว โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ ทาวน์โฮม และบ้านแฝด สำหรับคนฉลาดเลือก เริ่ม 2.49 ล้านบาท

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ “โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์” (Modi Villa Chaiyaphruek) โครงการพร้อมอยู่จาก Property Perfect บ้านแฝด 2 ชั้น และทาวน์โฮม 2 ชั้น ภายใต้แนวคิด “Chang To The Smart Life” มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ บนเนื้อที่ดินเริ่มต้น 18 ตร.วา. ขึ้นไป มาพร้อมกับ Clubhouse 2 ชั้น, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ “iPark” สวนพักผ่อนขนาดใหญ่สไตล์ Zen อุ่นใจ…กับระบบรักษาความปลอดภัยอย่างมืออาชีพ จาก SECOM มาตรฐานญี่ปุ่น ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท สำหรับรายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อที่ด้านล่างได้เลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ถนนเทศบาล 2 ตำบลบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

ที่ตั้งโครงการ โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ The Best Location โซนชัยพฤกษ์ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนโยธาธิการ นนทบุรี 2003 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่ ขับเข้ามาประมาณ 1 กม. ถึงโครงการ สะดวกสบายด้วยระบบคมนาคมครบครัน อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วง, รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ในอนาคต) การเดินทางเน้นการใช้รถยนต์ส่วนตัว สามารถเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทางค่ะ ไม่ว่าจะมาจากสะพานพระราม 4, ถนนราชพฤกษ์, ถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่, ถนนกาญจนาภิเษก และถนนรัตนาธิเบศร์ รวมถึงถนนที่กำลังตัดใหม่อีกหลากหลายเส้นทาง (ในอนาคต) ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะ แนะนำให้ใช้บริการ Grab Taxi หรือพวก UBER เพราะด้านหน้าโครงการ ยังไม่มีรถสาธารณะผ่าน ส่วนระบบขนส่งอื่น ๆ จากโครงการจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางพลู ระยะทางประมาณ 5 กม. ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ส.ค. นี้ แล้วค่ะ

ระยะทางโดยรอบ

• ถ.ชัยพฤกษ์ ตัดใหม่ > ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2003 > 1 กม.
• ถ.ราชพฤกษ์ > ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2010 > ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2003 > 2.7 กม.
• ถ.บางกรวย – ไทรน้อย > ทางหลวงชนบท นนทบุรี 4012 > ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2003 > 2 กม.
  

จาก ถ.กาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก > 5.1 กม. > โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ 

จากทางลัดไป ถ.กาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก > 4.4 กม. > โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ 

จากสะพานพระราม 4 > 7.2 กม. > โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ 

การเดินทาง

การเดินทาง เริ่มจาก วงเวียนพระราม 5 > ถ.ราชพฤกษ์ > ถ.ชัยพฤกษ์ ตัดใหม่ > ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2003 > 1 กม. > โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ 

พิกัด Google : 13°55’04.0″N 100°26’15.5″E

การเดินทางเรามาจาก ลอดวงเวียนพระราม 5 บน ถ.ราชพฤกษ์ ขับตรงมาเรื่อยๆ ไป ถ.ชัยพฤกษ์

ตรงไป ถ.ชัยพฤกษ์

ผ่านแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ข้าม ถ.รัตนาธิเบศร์ มุ่งตรงไป ถ.ชัยพฤกษ์

ผ่าน Pure Place ราชพฤกษ์ อีก 1 กม. ถึง ถ.ชัยพฤกษ์ ค่ะ

ให้เตรียมเบี่ยงซ้ายออก ตามป้ายไป ถ.กาญจนาภิเษก

ไป ถ.กาญจนาภิเษก

ชิดซ้ายตามป้ายไป ถ.กาญจนาภิเษก เข้าสู่ ถ.ชัยพฤกษ์

ผ่าน Pop Market ราชพฤกษ์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.ชัยพฤกษ์

ผ่าน ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2010 (บ้านวังข่า – วัดสิงห์ทอง)

สังเกตซ้ายมือ ปั๊ม ปตท. และป้ายกลับรถ ให้ชิดซ้าย ไม่ต้องขึ้นสะพาน

ขับตรงไป

พอผ่านที่กลับรถ จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ ถ.โยธาธิการ นนทบุรี 2003

จากนั้นตรงไปอีกประมาณ 1 กม. ถึงโครงการ ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทาง

ผ่านทางไป สภ.คลองข่อย (ใหม่) สามารถลัดไป ถ.ราชพฤกษ์ ตรงไปอีกหน่อยก็ถึงโครงการค่ะ

ถึงโครงการ Modi Villa ชัยพฤกษ์ ตรงข้ามจะเป็นโซนทาวน์โฮม ค่ะ

บริเวณโดยรอบโครงการ

:: สถานที่สำคัญ ::

– รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางพลู : 5.9 กม.
– Pure Place : 5 กม.
– Shop Ploen ราชพฤกษ์ : 5 กม.
– Pop Market ราชพฤกษ์ : 3.5 กม.
– The Crystal PTT ชัยพฤกษ์ : 6.7 กม.
– The Square & SF Cinema บางใหญ่ : 7.7 กม.
– Homepro รัตนาธิเบศร์ : 8.2 กม.
– Big C Extra บางใหญ่ : 10 กม.
– Big C รัตนาธิเบศร์ : 8.2 กม.
– Big C Mini : 1.4 กม.
– TESCO Lotus Express : 4.3 กม.
– Central Plaza Westgate :8.3 กม.
– Index Living Mall บางใหญ่ : 9.4 กม.
– ไทวัสดุ : 6.6 กม.
– บางใหญ่ ไนท์บาร์ซ่า : 9.4 กม.
– ตลาดสดเทศบาลเมืองบางบัวทอง : 3 กม.
– ตลาดพิมลราช เซ็นเตอร์ : 1.4 กม.
– วัดบรมราชากาญจนาภิเษก อนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) : 2.9 กม.

– รพ.ชลดา : 2 กม.
– รพ.บางบัวทอง : 3.5 กม.
– รพ.การุญเวช รัตนาธิเบศร์ : 10 กม.
– รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ : 8 กม.

– ร.ร.บางบัวทอง : 3.6 กม.
– ร.ร.พระแม่สกลสงเคราะห์ : 4 กม.
– ร.ร.นนทบุรีวิทยาลัย : 4.5 กม.

:: ภาพมุมสูงโครงการ ::

โครงการ โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ ตั้งอยู่ติดถนนโยธาธิการ นนทบุรี 2003 แบ่งโครงการเป็น 2 ฝั่ง ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน แยกทางเข้า-ออกกันชัดเจน โดยฝั่งซ้ายมือ เป็นโมดิ วิลล่า ทาวน์โฮม ประกอบไปด้วย ทาวน์โฮม แบบ Zen 1 จำนวน 145 ยูนิต ด้านหลังโครงการเป็นหมู่บ้านลภาวัน 10 ติดกับโครงการเป็นหมู่บ้านดิเอมเมอรัลด์ ส่วนฝั่งขวามือ เป็นโมดิ วิลล่า ที่ประกอบไปด้วย บ้านแฝด แบบ Mona-M จำนวน 64 ยูนิต และทาวน์โฮม แบบ Zen-2 จำนวน 123 ยูนิต ด้านหลังโครงการ ติดกับพลีโน่ รัตนาธิเบศร์-ชัยพฤกษ์ ขนาบข้างด้วยพื้นที่เปล่า ที่เป็นพื้นที่สีเขียวแบบเปิดโล่ง บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนมากค่ะ

:: สาธารณูปโภค ::

ภาพมุมสูงทางโครงการ โมดิ วิลล่า ฝั่งซ้ายเป็นโซนทาวน์โฮม ฝั่งขวาเป็นโซนบ้านแฝด และทาวน์โฮม ค่ะ

สะพานข้ามเชื่อมสู่ฝั่งโมดิ วิลล่า

ขอพาไปดูพื้นที่ส่วนกลางฝั่ง โมดิ วิลล่า กันก่อนค่ะ

ถนนหน้าโครงการขนาดใหญ่ ปูพื้น Stamp Concrete รับกับสวนสีเขียวด้านข้าง เข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว

Visitor Parking ด้านหน้า Clubhouse สำหรับผู้ที่มาติดต่อเยี่ยมชมโครงการ

Clubhouse – Sales Office

บรรยากาศภายใน Sales Office ในอนาคตจะเป็นส่วนของห้องสมุดค่ะ

ทางเดินเชื่อมสู่สระว่ายน้ำ และฟิตเนส (ชั้นบน)

บรรยากาศภาพรวมบริเวณสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ตกแต่งกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงิน – ฟ้า แยกสระเด็ก และสระผู้ใหญ่

สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ ความยาว 15 เมตร ว่ายออกกำลังกายจริงจังได้เลย

Wood Deck ริมสระว่ายน้ำ จัด Sunbed รองรับการพักผ่อน

สระว่ายน้ำเด็ก แยกส่วนชัดเจน เปิดรับวิวฝั่งโมดิ วิลล่า ทาวน์โฮม

มองย้อนกลับมา พื้นที่ริมสระว่ายน้ำ จัด Sunbed สำหรับพักผ่อนไว้ 4 ตัว

ห้องน้ำ แยกชาย-หญิง + พื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ

ชั้นบน เป็นห้องฟิตเนส

ฟิตเนสขนาดกลาง กั้นห้องกระจก เปิดรับวิวรอบด้าน ภายในจัดเครื่องออกกำลังกายไว้ครบ แบ่งเป็น เครื่องปั่นวงรี 1 เครื่อง, ลู่วิ่งออกกำลังกายไฟฟ้า 1 เครื่อง, เครื่องปั่นจักรยานไฟฟ้า 1 เครื่อง พร้อมบาร์เบลบริหารกล้ามเนื้อครบชุด

ฝั่งโมดิ วิลล่า บ้านแฝด Mona-M และทาวน์โฮม Zen-2

ภาพมุมสูงฝั่งโมดิ วิลล่า

Main Gate โครงการตกแต่งสไตล์ Zen แบ่งทางเข้า-ออกแยกส่วน พร้อมป้อม รปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

เข้า-ออกส่วนพักอาศัย ด้วยระบบ Access Card Control ติดตั้งกล้อง CCTV ฝั่งละ 1 ตัว จับภาพด้านหน้าคนขับ

ถนนเมนภายในโครงการกว้าง 12 เมตร รถยนต์เข้า-ออกได้สะดวก

บ้านตัวอย่าง แบบบ้านแฝด Mona-M ตั้งอยู่ซ้ายมือ ยูนิตแรกของโครงการ

“iPark” สวนพักผ่อนพร้อมบ่อน้ำพุ และสวนหินสไตล์ Zen ปูหญ้าสนามเต็มพื้นที่ ตกแต่งไม้ดอก ไม้พุ่มประดับตามทางเดิน ลงต้นไม้พันธุ์ใหญ่ให้ร่มเงา เพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้ผู้อยู่อาศัยสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด

Jogging Track รอบสวนพักผ่อนส่วนกลาง ออกกำลังกายได้อย่างใกล้ชิดธรรมชาติ

Jogging Track

มุมพักผ่อนในสวน

ศาลาพักผ่อนกลางสวน ตกแต่งด้วยไม้สีเข้มในสไตล์ญี่ปุ่น

จัดม้าหิน เปิดรับวิวสวน และน้ำพุ

บรรยากาศบ้านแฝดภายในโครงการ

บ้านแฝดมาตรฐานพร้อมส่งมอบ ทางโครงการลงต้นไม้ พร้อมจัดสวนให้เรียบร้อย

ประตูบ้านมาตรฐาน : แบบประตูเหล็กรางเลื่อนทาสีเทา กำแพงติดตั้งกริ่งไร้สาย + ไฟกิ่ง + กล่องจดหมาย และถังขยะฝังกำแพง

ถนนซอยในโครงการ กว้าง 8 เมตรค่ะ

ออกจากฝั่งโมดิ วิลล่า มาดูพื้นที่ส่วนของฝั่งโมดิ วิลล่า ทาวน์โฮมกันต่อ

ทางเข้า-ออกฝั่งโมดิ วิลล่า ทาวน์โฮม

โมดิ วิลล่า ทาวน์โฮม

ภาพมุมสูง : โมดิ วิลล่า ทาวน์โฮม

Main Gate สไตล์ Zen ตกแต่งโทนสีเทา ตัดกับไม้สีเข้ม พื้นทางเข้า-ออกโครงการ ปู Stamp  Concrete ลายหินธรรมชาติ

เข้า-ออกโครงการ ระบบ Access Card Control เช่นเดียวกันค่ะ

บ้านตัวอย่าง : ทาวน์โฮมแบบ Zen-1 ตั้งอยู่ที่ยูนิตแรกทางขวามือ

บ้านมาตรฐานพร้อมส่งมอบ (แปลงมุม) โครงการลงต้นไม้ พร้อมจัดสวนให้เรียบร้อย ประตูรั้วเหล็กบานพับ กำแพงติดตั้งกริ่งไร้สาย + กล่องจดหมาย

ถนนเมนโครงการกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนซอยกว้าง 8 เมตรค่ะ

“iPark” สวนสวยสไตล์ Zen รังสรรค์ทุกพื้นที่ให้แตกต่างอย่างมีสไตล์ กับแนวคิด Smart Green Space Area ด้วยสนามหญ้า สีเขียว Jogging Track ศาลา และลานนั่งพักผ่อน โอบล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์

Jogging Track รอบสวน ออกกำลังกายชิว ๆ แบบใกล้ชิดธรรมชาติ

เพิ่มความสดชื่นด้วยบ่อน้ำพุสไตล์ Zen

ลานกิจกรรมกลางแจ้ง

บรรยากาศภายในส่วนพักผ่อน บ้านโซนสวนได้บรรยากาศสดชื่นมาก ๆ

บรรยากาศภายในสวนพักผ่อน

ศาลาพักผ่อนกลางสวน

ภายในจัดเก้าอี้ม้าหินยาว รองรับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

บรรยากาศภายในสวนพักผ่อน

:: แบบบ้าน ::

โครงการ โมดิ วิลล่า ชัยพฤกษ์ มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

• แบบบ้าน Zen-1
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร
• เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 18 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

• แบบบ้าน Zen-2
• ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร
• เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 20.1 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน

• แบบบ้าน Mona-M
• บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 6.4 เมตร
• เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 38 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.
• ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน

:: บ้านตัวอย่าง ::

แบบบ้าน Zen-1 : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.65 เมตร

เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 18 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 : ที่จอดรถ, มุมนั่งเล่น, มุมทานอาหาร, ห้องน้ำ, ห้องครัว, พื้นที่ซักล้าง

แปลนบ้านชั้น 2 : ห้องนอนใหญ่, ห้องนอน 2, ห้องนอน 3, ห้องน้ำ

ทาวน์โฮมสไตล์ Modern Zen ตัวบ้านเลือกใช้สีเอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกอบอุ่น บรรยากาศน่าพักผ่อน

หน้าบ้านกว้าง 5.7 เมตร แบ่งเป็นประตูทางเข้าบ้าน และที่จอดรถในร่ม 1 คัน

พื้นลานจอดรถเทคอนกรีตปาดเรียบ เพดานติดไฟซาลาเปา 1 ดวง ด้านในมีประตูทางเข้ารอง เชื่อมต่อเข้าสู่ภายในบ้านได้อีกทาง

ประตูทางเข้าบ้าน แบบบานเลื่อน กระจกเขียวตัดแสง เพื่อช่วยลดความร้อนจากรังสียูวี กรอบอลูมิเนียม Power Coat สีเทา ผนังบ้านติดตั้งไฟกิ่งให้ 2 ดวง

เข้ามาภายในบ้าน ความสูงพื้น-เพดาน 2.6 เมตร พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้สีครีม ผนังบ้านและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพื้น ไฟภายในบ้านแบบโคมซาลาเปาค่ะ

ส่วนแรกของบ้านจัดเป็นมุมพักผ่อน มองต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร

พื้นที่มุมพักผ่อน โครงการจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง + Armchair 1 ตัว ตรงกลางจัดวางโต๊ะรับแขกหน้ากระจกนิรภัย สำหรับวางของให้ดูเป็นไอเดีย

ตรงข้ามโซฟา บิวท์อินชุดวางทีวี + ชั้นวางของให้ดูเป็นไอเดีย โดยผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างอิสระ ตามไลฟ์สไตล์

มองย้อนกลับมาทางหน้าบ้าน ระยะห่างโซฟา – ทีวี ประมาณ 1.7 เมตร อยู่ในระดับสายตาที่ดี เดินเข้า-ออกได้สะดวก

ติดกับมุมนั่งเล่น เป็นมุมรับประทานอาหาร โครงการออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว

จัดวางโต๊ะทานข้าวสี่เหลี่ยมขนาดกลาง รองรับได้ 4-6 ที่นั่ง

ด้านในสุดตกแต่งเป็นมุมเตรียมอาหารให้ดูเป็นไอเดีย มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนให้ 1 บาน ช่วยรับแสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้เป็นอย่างดี

อีกฝั่งของบ้าน แบ่งเป็นห้องน้ำ, โถงบันได และห้องครัวไทย

ห้องครัวไทยแยกเป็นสัดส่วน ป้องกันกลิ่นรบกวน โครงการเดินงานระบบท่อน้ำดี, ท่อน้ำทิ้ง และเต้าเสียบปลั๊ก รองรับการต่อเติมครัวให้พร้อมค่ะ

พื้นส่วนครัวปูกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาล เพื่อการทำความสะอาดได้อย่างสะดวก มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1.8 x 1.6 เมตร

มีห้องเก็บของขนาดกะทัดรัด กั้นประตูไม้บานเปิดปิดมิดชิดเป็นสัดส่วน

ห้องครัวไทย เชื่อมต่อกับพื้นที่ซักล้างได้อย่างสะดวก ติดไฟฟลูออเรสเซนส์ให้ 1 ดวง

พื้นที่ซักล้างเทพื้นคอนกรีตปาดเรียบ พื้นที่ใช้สอย ขนาด 5.65 x 2.0 เมตร กำแพงบ้านสูง 2.5 เมตร เพื่อความเป็นส่วนตัว

มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในบ้าน ก่อนพาขึ้นไปดูชั้น 2 ค่ะ

บริเวณโถงบันได ซ้ายมือเป็นประตูที่เชื่อมต่อกับที่จอดรถ ด้านหน้าเป็นห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างขนาดพอเหมาะ ปูพื้นกระเบื้องเซรามิคแผ่นใหญ่ ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด ของ Cotto ค่ะ

ติดตั้งอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง หน้าอ่างวางของได้เล็กน้อย ใต้อ่างมีก๊อกน้ำ สำหรับซักล้างไว้ให้ + โถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานครบชุดค่ะ

ด้านหลังชุดสุขภัณฑ์ ก่อเคาน์เตอร์ TOP หินแกรนิต วางอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้เต็มพื้นที่ + กระจกเงาบานใหญ่เต็มผนัง

มุมซ้ายติดฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำแบบหมุน พร้อมที่วางสบู่ฝังผนังให้ครบ

ติดกับห้องน้ำเป็นโถงบันได เชื่อมต่อสู่ชั้น 2

บันไดรูปทรง L-Shape โครงการบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรง

หน้าบันไดไม้สำเร็จรูป ผนังติดตั้งราวจับต่อเนื่องถึงชั้น 2

ขึ้นมาสู่ชั้น 2 : โปร่งโล่งด้วยเพดานสูง 2.8 เมตร พื้นบ้านปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. : ประกอบไปด้วยห้องนอนใหญ่ (ฝั่งหน้าบ้าน), ห้องนอน 2 (ฝั่งหลังบ้าน), ห้องนอน 3 (ฝั่งหน้าบ้าน) และห้องน้ำ (ซ้ายมือ) แบบใช้งานร่วมกัน

เริ่มจากห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันก่อน (ห้องนอน 3)โดยประตูห้องพักทั้งหมดวัสดุไม้สำเร็จรูปบานเรียบสีขาว ลูกบิดทรงกลมสีเงินมาตรฐาน

ห้องนอนขนาดกลาง ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์มินิมอล

วางเตียงนอน 3.5 ฟุต เข้ามุม ขวามือบิวท์อินตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ขนาด 1.2 เมตร ให้ดูเป็นไอเดีย

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ ประมาณ 50 ซม. เดินเข้า-ออก ขึ้น-ลงเตียงนอนได้สะดวก

ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับกำแพง เหลือพื้นที่ ประมาณ 50 ซม. เช่นเดียวกัน บริเวณหัวเตียงสามารถตกแต่งโคมไฟตั้งพื้น หรือโต๊ะหัวเตียงขนาดกะทัดรัดเพิ่มเติมเข้าไปได้

ข้างเตียงมีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง ขนาด 1.4 x 1.6 เมตร แบ่งเป็นแบบบานเลื่อน และบาน Fix เปิดรับลม และแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

มองย้อนกลับมาทางหน้าห้อง พื้นที่ฝั่งนี้เหลือเยอะ ยืนเลือกเสื้อผ้า แต่งตัวได้สบาย ๆ หรือจะตกแต่งเพิ่มเติมเป็นอย่างอื่นก็ได้ตามใจชอบ

มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ตกแต่งห้องสไตล์ Zen แบบญี่ปุ่น

วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต ได้สบาย ๆ ข้างเตียงฝั่งซ้าย บิวท์อินตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน + โต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัดให้ดูเป็นไอเดีย

พื้นที่เหลือรอบเตียง ฝั่งละ 80 x 50 x 50 ซม. เดินเข้า-ออกได้สะดวก

ปลายเตียงสามารถวาง Sideboard ขนาดกลาง ๆ ได้ หากต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้งาน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังค่ะ

ห้องนอนใหญ่พร้อมระเบียงส่วนตัว ประตูระเบียงกระจกเขียวตัดแสง ขนาด 1.6 x 2.0 เมตร เพิ่มความโปร่ง โล่ง สบาย เปิดรับวิวฝั่งหน้าบ้านได้เต็มสายตา

ระเบียงแบบหน้ากว้าง ปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ลดระดับลง ประมาณ 5 ซม. ป้องกันน้ำฝน และสิ่งสกปรกเข้าสู่ตัวห้อง ติดตั้งราวกันตกสูง 90 ซม. เพื่อความปลอดภัย

ขวามือเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ กั้นกริลระแนงสูงถึงเพดาน ปล่อยลมร้อนออกด้านนอก

มองออกเป็นเห็นวิวสวนพักผ่อนสไตล์ Zen

มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน

ไปต่อกันที่ห้องนอน 2 (ฝั่งหลังบ้าน) และห้องน้ำกันค่ะ

ห้องนอน 2 (ฝั่งหลังบ้าน) ตกแต่งเรียบง่ายในโทนสีขาว-เทา-ดำ

วางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต เข้ามุมห้อง พื้นที่ข้างเตียงเหลือกว้างพอสมควร พอเดินเข้า-ออก ขึ้น-ลงได้เตียงได้สะดวก

ภายในห้องมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน เปิดรับลม และแสงธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

ข้างเตียงบิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัด + ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน ให้ดูเป็นไอเดีย

ส่วนปลายเตียง สามารถวาง Sideboard ขนาดกลาง ๆ ผนังเดินงานระบบเต้าเสียบปลั๊กไฟ และสายเคเบิลให้พร้อมใช้งานค่ะ

ต่อกันที่ห้องน้ำเป็นส่วนสุดท้าย : ห้องน้ำตกแต่งโทนสีกลาง แบ่งส่วนแห้ง และส่วนอาบน้ำให้ชัดเจน สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto และ Prema เช่นเดียวกัน

ปูพื้นกระเบื้องเซรามิคแผ่นใหญ่ ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

ส่วนแห้งติดตั้งอ่างล้างหน้า ต่อเนื่องด้วยโถสุขภัณฑ์ + อุปกรณ์มาตรฐานครบชุด

ด้านหลังก่อเคาน์เตอร์ TOP หินแกรนิต สามารถวางของได้เต็มพื้นที่ ผนังติดตั้งกระจกส่องหน้าให้ 1 บาน + หน้าต่างบานกระทุ้ง ไว้เปิดรับแสงธรรมชาติ ทั้งยังช่วยระบายอากาศ ระบายความชื้น ป้องกันการเกิดเชื้อราในห้องน้ำได้ด้วยค่ะ

ส่วนอาบน้ำทางโครงการกั้น Shower Box บานสวิงให้ดูเป็นไอเดีย บ้านมาตรฐานเปิดโล่ง ยกธรณีสูง 5 ซม. ไว้ให้

พื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.8 x 1.5 เมตร ใหญ่พอสมควร ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ

ติดตั้งฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำก้านโยก + ที่วางสบู่ฝังกำแพง ผนังด้านบนเดินงานระบบ รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้พร้อมใช้งาน

แบบบ้าน Mana-M : บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 6.4 เมตร

เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 38 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 2 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 : ที่จอดรถ 2 คัน, มุมนั่งเล่น, มุมทานอาหาร, ห้องน้ำ, ห้องครัว, พื้นที่ซักล้าง

แปลนบ้านชั้น 2 : ห้องนอนใหญ่ + ห้องน้ำ, ห้องนอน 2, ห้องนอน 3, ห้องน้ำ

บ้านแฝด หน้าบ้านกว้าง 6.4 เมตร แบ่งเป็นประตูทางเข้า และ ที่จอดรถในร่ม 2 คัน

ที่จอดรถบ้านมาตรฐาน เทพื้นคอนกรีตปาดเรียบ ทำทางลาดลงเล็กน้อย เพดานด้านบนติดตั้งไฟซาลาเปาให้ 1 ดวง ด้านในมีห้องเก็บของ กั้นประตูบานเปิดปิดมิดชิด

กำแพงที่จอดรถ เว้นช่องลม เพื่อให้อากาศพัดผ่านได้อย่างสะดวก

มองมาทางประตูเข้าบ้าน

ข้างบ้านทำชานพักยื่นออกมาให้ บ้านมาตรฐานจะปูพื้นกระเบื้องให้เรียบร้อย